อาหารที่เป็นโทษต่อสุนัข : Bad food for Dog

รตจิตรเขียนบทความนี้เพื่อคนรักสุนัข และพวกเราคงอยากเห็นเขาสุขภาพดีอยู่กับเราได้จนแก่เฒ่าแบบแข็งแรงและเดินได้ รตจิตรเพิ่งเอาจริงเอาจังเรื่องการให้อาหารสุนัข ไม่ว่าจะมาจากประสบการณ์ ความรู้จาก internet โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก website ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่เห่อฝรั่ง แต่เพราะพวกฝรั่งใส่ใจในสุนัขของเขามาก และบางครั้งไม่แคร์ที่จะบอกว่าอาหารเม็ดดีหรือไม่ดี ในขณะที่ไทยอาจจะไม่กล้าเขียนหรือบอกกัน เป็นต้น บางสิ่งบางอย่างที่สุนัขกินเข้าไปอาจมีการสะสมและเกิดอันตรายต่อระบบย่อยอาหาร, ระบบประสาท และกล้ามเนื้อซึ่งมีผลต่อการเคลื่อนไหวของสุนัขที่รักของรตจิตร

มาเข้าเรื่องเลยดีกว่า รตจิตรจะพูดถึงของกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพของสุนัขที่เรารัก บางอย่างรตจิตรไม่เข้าใจเหตุผล แต่ถ้าไม่มีมูล นักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ หรือนักวิชาการคงไม่กล้าเขียน และไม่ใช่ว่าคนกินแล้วดี สุนัขจะกินดีเสมอไป เพราะสุนัขเป็นสัตว์กินเนื้อ บางคนพูดชนิดที่ว่าไม่ให้สุนัขกินผักเลย ยกเว้นถ้าเพื่อน ๆ มีสุนัขที่เผอิญมีฟันเหมือนคน ก็อาจไม่ต้องสนใจคำเตือนจากรตจิตร 10 ข้อนี้ก็ได้

1. ของหวานได้แก่ Chocolate; ขนมใส่ยีสต์ซึ่งไปเพิ่มลมเพิ่มแก๊สให้สุนัขมีผลต่อระบบการย่อย
2. สิ่งเสพติดได้แก่ บุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ : แน่นอนมีผลต่อระบบประสาท และอาจทำให้ถึงตายได้
3. พืชผักบางชนิด ได้แก่ บล็อกเคอรี่ ; ถั่วฝักยาว ; หัวหอมและกระเทียม ซึ่งมีสาร Sulfoxides และ Disulfides ทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดง โดยกระเทียมมีสารพิษน้อยกว่าหัวหอม อาจทำให้สุนัขอาเจียน และเบื่ออาหาร ยังมีมะเขือ ตลอดจนถั่วทุกชนิด โดยเฉพาะ อัลมอนด์ และ Macadamias ซึ่งทำให้แขนขาอ่อนเปรี้ยได้
4. ผลไม้ ได้แก่ เมล็ดของลูก peaches และลูก plums ; อะโวคาโด ที่กินแล้วอาเจียน ท้องเสีย ; องุ่นและลูกเกด มีสารพิษต่อไต และท้องเสียได้
5. เครื่องดื่มพวกที่มีคาเฟอีน เพราะมีโทษต่อหัวใจและระบบประสาท ไม่ว่าจะเป็นน้ำชา กาแฟ เป็นต้น
6. อาหารแมว : เพราะมีโปรตีน ไขมันมากเกินกว่าที่สุนัขต้องการ
7. ของหวานไป เค็มไป และของดิบ ๆ เช่นไข่ดิบ เนื้อหมูดิบ และปลาดิบ
8. กระดูกที่คม อาจทำร้ายเหงือกสุนัข คอ และบาดอวัยวะภายใน
9. ตับ : รตจิตรไม่ให้กินตับ หรือนาน ๆ ครั้งที่จำเป็นต้องซื้ออาหารเม็ด ก็จะไม่ซื้อรสตับเด็ดขาด
10. อื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อคนแต่ไม่ใช่สุนัขได้แก่ วิตามินทั่วไปที่คนทานซึ่งประกอบด้วยธาตุเหล็ก และนมที่มีน้ำตาลแลคโตส เพราะสุนัขไม่มีเอ็นไซม์ย่อยน้ำตาลประเภทนี้