28 พฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมารตจิตรได้มีโอกาสไปเที่ยวลพบุรีกับชมรมท่องเที่ยวของ LPN Sweet ปิ่นเกล้า มีความสุขมาก การที่เราจะไปไหนซ้ำแล้วซ้ำอีก จะสนุกหรือไม่อยู่ที่กลุ่มที่เราไปด้วย วันนั้นเผอิญตรงกับวันงานเลี้ยงโต๊ะจีนลิงประจำปี จึงทำให้ในเมืองรถค่อนข้างติด และเวลาข้ามถนนก็งงงงง เพราะมัวแต่ดูลิง กลัวลิง กลัวรถ ฯลฯ แต่สนุกค่ะ และขอบอกว่าเป็นดินแดนของลิงจริง ๆ ทั้งลิงเสน และลิงกัง
ตอนนี้มาเข้าเรื่องที่รตจิตรไปมา 1 วันได้อะไรบ้างกันดีกว่า
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ “เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์” ใครที่ไปลพบุรีถ้าไม่ได้นั่งรถไฟชมเขื่อนก็น่าเสียดาย ซึ่งรตจิตรไปที่เขื่อนก่อนเพื่อไม่ให้ร้อนมากค่ะ ขนาดหน้าหนาว ยังร้อนเลยค่ะ ที่นี่ต้องซื้อน้ำอ้อยแก้กระหายแน่ ๆ ค่ะ และต้องช่วยซื้อเมล็ดทานตะวันคั่วสด ๆ ตรงนั้นเลย มีทั้งแบบเค็มและแบบหวาน ห่อละ 20 บาท หรือ 6 ห่อ 100 บาทค่ะ มีหมวกสวย ๆ ขายด้วยไว้ใส่กันแดดกันตอนนั้นเลย ราคาย่อมเยาจริง ๆ ค่ะ
หลังจากแวะเที่ยวถ่ายรูปที่เขื่อน รตจิตรและเพื่อน ๆ ก็แวะสวนดอกทานตะวัน ขนาดยังไม่ถึงเดือนธ.ค. ดอกทานตะวันบางดอกยังใหญ่โตกว่าหน้าของรตจิตรอีก คิดค่าเข้าชม 10 บาทต่อคนค่ะ ที่นี่รตจิตรได้ซื้อ Vine ช่วยผันเงินสู่ชนบทอีกแล้ว ฮิฮิ ชอบค่ะ
จากนั้นรตจิตรก็มีโอกาสเข้าชมพระนารายณ์ราชนิเวศน์เป็นพระราชวังแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่สวยงามมาก ชาวบ้านเรียกกันว่าวังนารายณ์ อยู่ตำบลท่าหิน อำเภอเมือง รูปที่รตจิตรเอามาฝากแค่ 1 รูปก็สวยแล้วใช่ไม๊ วันที่ไปมีต่างชาติมาเยี่ยมชมหลายคันรถเลย บอกแล้วว่าเมืองไทยเราสุดยอด!!!
และแน่นอนที่เราต้องไปกราบไหว้คือศาลพระกาลสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัด
ตามด้วยปรางค์สามยอด สมัยทวาราวดี ที่โดดเด่น และประดับประดาไปด้วยลิง 555 ถ่ายรูปลิงมาได้หลายรูปเลยล่ะแต่ไม่ว่างมาลง เพราะโปรแกรมทัวร์ที่อื่น จังหวัดอื่นยังมีรออยู่ค่ะ
ถ้าปี 2554 ไปไม่ทันดูทานตะวันเพราะนี่ก็จะสิ้นเดือนม.ค. แล้ว ก็อย่าลืมไปสิ้นปีให้ได้ เพราะปี ๆ หนึ่งเร็วจริง ๆ