ตลาดน้ำ Floating Market

วันนี้ รตจิตร จะ in trend ขอเกาะกระแส fevour ของการท่องเที่ยวตลาดน้ำบ้างดีกว่า เพราะปัจจุบันการท่องเที่ยวอย่างหนึ่งที่นิยมกันคือ การเที่ยวตลาดน้ำ ซึ่งทำให้ตลาดน้ำบางแห่งที่เคยร้างไป สามารถกลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้ง แม้ตลาดน้ำที่คนนิยมไปมีหลายแห่ง เช่นตลาดน้ำ 100 ปี อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ตลาดคลองสวน 100 ปี จังหวัดฉะเชิงเทรา ตลาดน้ำคลองสระบัว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตลาดน้ำท่าคา และตลาดที่มีอายุมากกว่า 150 ปี เช่นตลาดริมน้ำโบราณบางพลี ริมคลองสำโรง หรือตลาด ศิริโสภณ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังบิ๊กซีบางพลีนั้นเอง แต่รู้สึกว่าเปิดวันเสาร์-อาทิตย์ ถึงเที่ยงวันเท่านั้น ตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำท่าคา และตลาดเก่าบางนกแขวก จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งคนในชุมชนยังคงรักษาเรือนไม้ที่เป็นห้องแถวอายุมากกว่า 150 ปี หากมีโอกาสไปตลาดน้ำอัมพวาแล้ว ควรขับรถแวะไปที่ตลาดเก่าบางนกแขวกก็ดี ขับไปอีกเพียง 10 กิโลเมตร นอกจากจะได้เที่ยวตลาดที่ยังคงเป็นธรรมชาติ และสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านจริง ๆ ยังได้มีโอกาสเห็นบ้านสมัยโบราณอีกท้งยังมีรายการให้นั่งเรือฟรี เพื่อชมเกษตรฝั่งคลองอีกด้วย

นอกจานี้ ถ้าขับรถข้ามมาที่ฝั่งธน ฯ ตามทางถนนบรมราชชนนีแล้ว ตลอดทางยังสามารถแวะตลาดน้ำได้ถึง 4-5 แห่งอีกด้วย 555 วันเดียวเที่ยวไม่หมดแน่ ตลาดน้ำที่มีชื่อเสียงโด่งดังตามเส้นทางนี้ก็เริ่มที่ (1) ตลาดน้ำตลิ่งชัน บางขุนนนท์ (2) ตลาดน้ำคลองลัดมะยม บางระมาด (3) ตลาดน้ำดอนหวาย จังหวัดนครปฐม (4) ตลาดน้ำวัดลำพญา ที่อำเภอศาลายา จังหวัดนครปฐมเช่นกัน แต่ถ้าคิดว่าหลังจากไปตลาดน้ำที่ (1) และ (2) แล้ว จะไปต่อที่ตลาดน้ำ (3) หรือ (4) ไม่ทัน หากไม่ตกบ่ายมากก็แวะที่ (5) ตลาดน้ำวัดตะเคียนได้ตามที่เคยเขียนให้ไปแล้ว

รตจิตรคิดว่าตลาดน้ำที่เกริ่นมาเป็นตัวอย่างข้างต้น หลายคนอาจรู้จักกันดีอยู่แล้ว รตจิตรจึงอยากเขียนที่ตัวเองไปเที่ยวตลาดน้ำมาในวันเดียวกัน 2 แห่ง รวมถึงรายการที่ไปจับจ่ายใช้สอยมา วันเดียวร่วม 1,500 – 2,000 บาท โดยเริ่มที่ตลาดน้ำตลิ่งชัน แล้วไปต่อที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมดังนี้ค่ะ

(1) ตลาดน้ำตลิ่งชัน – คลองบางขุนนนท์

เป็นตลาดน้ำที่อยู่ใกล้กรุงเทพ ฯ ที่สุด นอกจากไม่ไกล ยังสวยตั้งแต่ป้ายด้านหน้า และด้านหลังป้ายก็เป็นสระบัวที่ร่มรื่น และสะพานไม้ ก็งามแต้ แต้ แล้ว ตลอดจนมีข้าวของให้จับจ่ายครบทุกประเภท ถ้ามาจากกรุงเทพด้านสะพานพระปิ่นเกล้า เลยเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ไปประมาณ 2 ก.ม. ให้ขึ้นสะพานไปทางซ้ายที่จะไปบางขุนนนท์ แต่พอลงสะพานยังไม่ต้องออกทางคู่ขนานเพราะรถอาจจะติดตรงปากทางเข้าบางขุนนนท์ ให้ไปออกช่องทางด้านหน้าซึ่งเป็นทางลงทางด่วนบรมราชชนนี หรือเลยไปประมาณ 2-300 เมตร ออกไปผ่านสน. ตลิ่งชันชิดซ้ายเข้าไปเลยค่ะ ตลาดน้ำอยู่ด้านใน รตจิตรประมาณว่าขับไปตามทาง 300 เมตรจะมีสัญญาณไฟแดง-ไฟเขียว ก่อนข้ามทางรถไฟ ณ จุดนี้อาจเลี้ยวขวาไปจอดข้างทางรถไฟซึ่งจะอยู่ซ้ายมือของเรา สังเกตเห็นป้ายขนาดใหญ่ว่าทางเข้าตลาดน้ำได้ หรือไม่ต้องเลี้ยวขวา แต่เลยข้ามทางรถไฟไปประมาณ 600 เมตร จะพบทางเข้าที่จอดรถทางขวาซึ่งฟรีค่ะ แต่ถ้าไม่มีที่จอดจริง ๆ ก็จอดฝั่งตรงข้ามของเอกชน เสียค่าจอด 20

(2) ตลาดน้ำคลองลัดมะยม – คลองบางระมาด

ออกจากตลาดน้ำตลิ่งชันทางเดิมที่ขับเข้าไปค่ะ เลี้ยวซ้ายมาที่ถนนบรมราชชนนี ขับตามทางคู่ขนานตรงไปประมาณ (เดาเอาค่ะ) 400 เมตรเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 1 ให้ขับตรงไปข้ามสะพาน 2 สะพานคือสะพานแรกคือคลองบางระมาด สะพานที่ 2 เรียก คลอง??? พอเห็นสะพานที่ 3 ให้กลับรถใต้สะพานก็จะพบทางเข้าตลาดน้ำค่ะ ขับไปตามทาง 1.5 – 1.8 ก.ม. คล้าย ๆ ที่ตลาดน้ำตลิ่งชัน มีที่จอดรถฟรี สะดวกสบายถ้ามาเช้าค่ะ ด้านขวาหน้าตลาด แต่ถ้าอยากหนีความแออัด ก็จอดฝั่งตรงข้าม 20 บาท รตจิตรคิดว่าที่ตลาดนี้มีของมาก มีอาหารหลากหลาย และใหญ่พอควร เพราะมีตลาดทั้งซ้ายและขวา แต่ถ้าจะมาแล้วได้พบทุกรายการจริง ๆ ต้องมาถึงประมาณ 10+ โมงเช้าค่ะ

รตจิตรอยากแนะเส้นทาง ถ้าเพื่อน ๆ มาทางถนนสายกาญจนาภิเษก ก็สะดวกมากเช่นกันคือก่อนถึงเนติบัณฑิตยสถาน สังเกตว่าตรงทางขึ้นที่กลับรถพอดี ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเพียง 1 ก.ม. ผ่านหมู่บ้านที่ค่อนข้างมีฐานะมาตลอดทาง ก็จะเห็นตลาดแล้วค่ะ

ทั้ง 2 ตลาดมีเรือให้นั่งชม แต่ไม่ฟรีค่ะ เช่นที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ราคาต่อหัว 50 บาท ถ้าใครมี 2 หัวก็ 50 บาทค่ะ เพื่อล่องเรือเที่ยวคลองบางระมาด บ้านไทร และสบายตากับการชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน อิ่มตาด้วยทิวทัศน์ 2 ข้างคลอง

นอกจากนี้ตลาดทั้งสอง ยังมีสินค้าหลากหลายชนิด ทั้งอาหารอร่อย ขนมหวานไทย ๆ ของใช้นานาชนิด ต้นไม้ ของตกแต่งบ้านเรือน ของฝาก ร้านขายเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ ของเล่นเด็ก และผลิตภัณฑ์ที่ชาวบ้านทำจากมือ ฯลฯ โดยมีอาหารอร่อยมากมายให้นั่งทานกันริมคลองค่ะ สงกรานต์ที่ผ่านมามีการเล่นสงกรานต์ทางเรือที่ตลาดน้ำตลิ่งชันค่ะ วัยรุ่นและฝรั่งสนุกกันน่าดู รตจิตรมักเห็นฝรั่งมาเที่ยวท่าน้ำตลิ่งชันมากกว่าที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม เพราะมาสะดวก รถ 3 ล้อก็มาก รถเมล์ปอ. 79 ก็ผ่าน แหะ ๆ เพราะหลายครั้งที่รตจิตรนั่งรถเมล์มาค่ะ ประหยัดเชื้อเพลิงของชาติ แต่วันนี้ขอวันนึง เพราะต้องการผันเงินช่วยซื้อผลิตภัณฑ์และอาหารจากชาวบ้านจริง ๆ ค่ะ ลองดูรายการที่รตจิตรซื้อเสียก่อน แต่สำหรับที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมแทบจะยังไม่เห็นพวกต่างชาติเลยค่ะ รตจิตรคิดว่าในอนาคตคงจะมีต่างชาติมาอุดหนุนมากขึ้นนะคะ

ถ้าต้องการดูหรือวางแผนการจับจ่าย ลองดูรตจิตรใช้จ่ายซิคะ หนักของกินค่ะ
ที่ตลาดน้ำตลิ่งช้น รตจิตรจะเล่าตั้งแต่ร้านแรก ๆ ที่ซื้อต่อไปจนถึงร้านในสุด
ครองแครงพริกไทยดำ 30 บาท/ถุง, เห็ดทำต้มยำ 20 บาท/ถุง, มะนาวแป้น 20 บาท/ถาด มี 7 ลูกค่ะ น้ำมากจริง ๆ , ขนมไทย ๆ อีกเพียบ 20 บาท/กล่อง, มะม่วงเขียวเสวย 45 บาท/ก.ก, มะละกอเป็น pack สำเร็จ 20 บาท/pack, ราดหน้าก่อนถึงคลอง อร่อยมากค่ะ 30 บาท/ถุง, เลยไปอีกนิดนึง ด้านซ้ายเป็นเปาะเปี๊ยะสด 20 บาท/กล่อง, ร้านตรงข้ามก็เป็นลูกชุบ ให้เลือกหยิบกันตามสบาย คนส่วนใหญ่ที่มาตลาดน้ำที่นี่ มักไม่ลืมที่จะแวะซื้อหมี่กรอบ 5 กล่อง 100 บาท ร้านที่พายเรือขายด้านขวานะคะ รตจิตรซื้อ 10 กล่องค่ะ เผื่อใส่บาตรวันสงกรานต์ และให้เจ้านาย + ลูกน้องวันเปิดงานมาค่ะ ต่อด้วยร้านสลิ่ม ลอดช่อง และมะพร้าวทับทิมกรอบ ร้านที่พายเรือเช่นกัน 30 บาท/ถุง, และต้องไม่ลืมชิมร้านส้มตำปู ไทย ตำผลไม้ อร่อยมาก + สะอาดมาก เป็นเรือที่จอดตรงข้ามเรือสลิ่มค่ะ 30 – 35 บาท/ถุง, ขากลับอาจแวะซื้อชุดปีกไก่/น่องไก่ ชุดละ 50 บาท/จาน ซึ่งรตจิตรคิดว่าอร่อย แต่แพงไปนิดค่ะ ถ้ามีเวลาก็ลองนั่งกินปู หอย กุ้ง ร้านแรกเลยค่ะ เพราะน้ำจิ้มอร่อย ….. สรุปวันนี้ได้ผันเงินไปที่ตลาดน้ำตลิ่งชันร่วม 1,000 บาทค่ะ

มาต่อที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม ซื้อมากกว่าที่ตลิ่งชันอีกแนะ ราคาส่วนมากพอประมาณ ไม่ถึงกับเรียกว่าถูก
ขนมจีบปู 20 บาท/ไม้, ห่อหมก 4 หมก 10 บาท/หมก, เข็มกลัดเสื้อสวยมากและไม่แพง 2 อัน 250 บาท, กางเกงผ้าถุงโดยฝีมือชาวบ้าน 140 บาท/ตัว, ช่วยซื้อผักจากชาวบ้านที่ขนผักมากับเรือ เช่นผักบุ้ง กำเบ้อเริ่ม 10 บาท ไปเลี้ยงเต่า, ต้นหอมผักชี และมะพร้าวอ่อน 20 บาท/ลูก รตจิตรเลือกเอง เลยโทษใครไม่ได้ อ่อนจนไม่มีเนื้อเลยสักนิด รตจิตรเดินข้ามถนนไปตลาดอีกฝั่งค่ะ ก็เริ่มด้วยการซื้อข้าวโพด 2 ฝัก 25 บาท, ทานไอศกรีมโบราณ 15 บาท/ถ้วย ไม่ได้ใจเท่าที่ควร แต่เด็กอ้วนที่ตั้งใจขายน่ารักดี, บัวหิมะ 15 บาท/ชิ้น, น้ำเสาวรส รสชาดดีมาก ขวดเล็ก 20 บาท/ขวด, ร้านเยื้อง ๆ กันคือ แหนมเห็ด 3 ชนิด นอกจากแปลกแล้วยังอร่อยค่ะ 50 บาท/กล่อง, ตรงไปอีกนิดจนเกือบสุดตลาดก็แวะซื้อขนมโบราณ ทองหยอดจิ๋ว ฝอยทอง เม็ดขนุน เป็นต้นรวม 3 กล่อง 50 บาท, ปลาตัวเล็กเพิ่ม calcium 40 บาท/กล่อง, และตบท้ายด้วยเขียวเสวยเช่นเคย ถ้าผิวไม่สวย+เปรี้ยว 25 บาท/ก.ก. ถ้าสวย อร่อย ก็ 40-45 บาท/ก.ก. และถ้ามีเวลาก็อย่าลืมแวะทานก๊วยเตี๋ยวหรืออาหารอร่อย ๆ ข้างคลอง แต่ก๊วยเตี๋ยวน้ำตกจะอร่อยสู้ก๊วยเตี๋ยวกรุงเก่าที่ข้างธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาวัดศรีประวัติ ซึ่ง Sweet Willy eden เคยเขียนสั้น ๆ และลงรูปใน http://www.flickr.com/sw-eden ไปแล้ว หรือจะสู้ก๊วยเตี๋ยวเรือที่ตลาดน้ำวัดตะเคียนหรือไม่ รตจิตรไม่แน่ใจ เพราะไม่มีเวลาแวะชิมมาเล่าสู่กันฟังค่ะ