เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา วันที่ 20 ก.ย. 2554 รุ่นพี่ของรตจิตรมีความจำเป็นต้องไปโรงพยาบาลธนบุรี ถ. อิสรภาพ แถวตลาดพรานนก หรือที่เรียกว่า ธน 1 เพื่อไปหาหมอฟังผลการตรวจเลือดและรับยาแทนคุณแม่ของเธอ พอออกจากโรงพยาบาลธนบุรี ประมาณ 5 โมงเย็น เป็นเวลา Rush hour รถติดแน่ ๆ เธอเลี้ยวขวาจากหน้าโรงพยาบาล เพื่อจะเลี้ยวขวาอีกทีเมื่อเจอถนนพรานนก จะได้ไปเลี้ยวซ้ายตรงไฟแดงไฟเขียวที่สี่แยกพรานนก เพื่อไปแยกไฟฉายออกสู่เส้นถนนจรัลสนิทวงศ์ ประมาณนี้ รตจิตรยอมรับว่ารุ่นพี่คนนี้ขับรถค่อนข้างเก่ง มีประสบการณ์ขับรถมามากกว่า 30 ปีแล้ว และขับบ่อยด้วย นอกจากนี้ยังขับรถมาไม่รู้กี่ยี่ห้อ หลายขนาดด้วยตั้งแต่ 1200 cc จนถึง 2400 cc ช่วงเป็นวัยรุ่นยังเคยขับรถบรรทุก 4-6 ล้อ แต่แค่ถอยไปถอยมาเพื่อจอดรถ 555
ในวันนั้น เธอเป็นคันสุดท้าย จึงรีบขับให้ทันต่อเนื่องกับคันอื่น ๆ ที่เลี้ยวขวาออกจากถนนอิสรภาพไปแยกพรานนก รถที่อยู่ด้านขวาของเธอก็จอดโดยดีเพราะรอเลี้ยวเข้าซอยวัดดงมูลเหล็ก ในขณะที่รถด้านซ้ายมือของเธอก็จอดหยุดรอทั้ง 2 เลน โดยเลนแรกจะเลี้ยวเข้าถนนอิสรภาพ ส่วนอีกเลนที่จะตรงไปแยกพรานนกก็จอดรอ พอเธอเลี้ยวขวาออกไปเป็นคันสุดท้าย ก็ได้ยินเสียงบีบแตรดังสนั่น คือทำตัวไม่เหมือนชาวบ้านที่กำลังมีน้ำใจกันอยู่ เธอเหลียวไปดู เห็นเป็นรถตำรวจเลขทะเบียน 45345
เมื่อเธอตั้งลำตรง เธอก็ชิดซ้ายไว้เพราะเดี๋ยวจะต้องไปเลี้ยวซ้ายข้างหน้าตรงสัญญาณไฟ แต่รถตำรวจเลขทะเบียน 45345 ก็ไม่ยอมต่อท้ายเธอเหมือนชาวบ้าน รถตำรวจคันนี้รีบฉีกขวาออกไปเพื่อจะมาตัดหน้ารถเธอ คือทำเหมือนไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมให้รถของเธออยู่หน้าเป็นอันขาด เธอเห็นพฤติกรรมตำรวจที่แสนจะทุเรศ ทั้ง ๆ ที่ดูเหมือนจะเลี้ยวซ้ายเหมือนเธอแต่ไม่ยอมต่อรถเธอ ขอแซงหน่อยก็ยังดี…ทำนองนี้ รถตำรวจเลขทะเบียน 45345 ทำเช่นนี้เรื่อย ๆ เพื่อจะเบียด จะแซง จะเสียบให้ได้จนเธอสมเพช แต่เธอก็รักษาสิทธิ์ไม่ให้รถตำรวจคันนี้ซึ่งนิสัยไม่ดีแซงได้ ทั้ง ๆ ที่ความจริงถ้าเป็นคันอื่น เธอจะให้เพราะรู้ว่าพอใครอยากแซง ก็เพราะจำเป็น เมื่อเธอให้เข้าได้ เขาผู้นั้นก็จะมีความสุข ขับรถต่อไปอย่างไม่เครียด อย่างน้อยก็ลดจำนวนคนขับที่เครียด ๆ ลงได้ 1 คน อะไรอย่างนี้เป็นต้น เธอรู้สึกว่าเป็นการทำความดีอย่างหนึ่ง ดังที่พระอาจารย์ครรชิต คุณวโร เคยสอนไว้ว่า ….. ที่สำคัญเวลามีแต่ผ่านไปแล้วไม่ผ่านมา หาซื้อก็ไม่ได้ ดังนั้นถ้าคนยังมีเวลาอยู่ก็ควรรีบทำสิ่งดี ๆ ที่อยากจะทำก่อนที่ธรรมชาติจะไม่ให้เวลาคน ๆ นั้นแล้ว…… แต่ ณ ตอนนี้ รุ่นพี่ของรตจิตรรู้สึกว่าไม่ควรทำดีกับคนชั่ว (เป็นซะอย่างงั้น)
เธอเล่าต่อว่ารถตำรวจเลขทะเบียน 45345 คันนี้เห็นว่าไม่สามารถเอาชนะรถของรุ่นพี่ที่มีธรรมอยู่ในใจคันนี้ได้ เขาก็เลยต้องการชนะหลาย ๆ คันโดยรีบออกขวาเพราะต่อน้อยคันกว่าเลนซ้าย และไม่แน่ใจว่าเลนซ้ายอาจมีรถจอดอยู่ รถตำรวจคันนี้จึงขับกลางเลนเลยค่ะ ให้มันรู้ไปว่านี่คือรถตำรวจ!!! ซึ่งรุ่นพี่ก็ไม่เข้าใจว่าเส้นนี้เป็นแนวตลาดพรานนกเป็นถนนเก่า ค่อนข้างแคบ แต่ตำรวจไม่เคร่งครัดหรือเอาจริงจัง ชอบปล่อยให้มีการจอดรถ ทำให้รถที่จะเลี้ยวซ้ายต้องคอยเข้าออกหลีกหนีรถที่จอด เป็นต้น
แล้วรถตำรวจเลขทะเบียน 45345 ก็ไปเลี้ยวซ้ายข้างหน้า พฤติกรรมของตำรวจที่ขับรถเยี่ยงนี้ก็ไม่ได้ทำให้ไปเร็วกว่ารถของรุ่นพี่ของรตจิตรสักเท่าไร เธอตามรถตำรวจคันนี้ไปติด ๆ แต่เธอเลี้ยวขวาตรง 3 แยกไฟฉาย ซึ่งอีกหน่อยคงกลายเป็น 4 แยกไฟฉาย ส่วนรถตำรวจคันดังกล่าวเลี้ยวซ้ายไปทางสายใต้เก่า….. เป็นอันจบเรื่องแรกในวันนั้น