เมื่อฟังบรรยายเสร็จ ประมาณเวลาบ่าย 3 โมง คนที่ได้รับบัตรคิว 1-30 คนแรก จะถูกเรียกไปสอบปรนัยก่อน เนื่องจากคอมพิวเตอร์ที่ไว้สอบมีจำกัด เมื่อมีคนทำข้อสอบเสร็จ เจ้าหน้าที่จึงจะเรียกคนต่อไปมาสอบ
**งานเขียนนี้ ถือเป็นวิทยาทานเพื่อให้ทุกคนได้อ่าน โดยห้ามมิให้คัดลอกนำไปใช้เพื่อการค้าหรือนำไปใช้ในเว็บไซต์อื่น โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่มีโฆษณา ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งนี้อนุญาตให้นำไปใช้ในสถาบันการศึกษา โดยต้องอ้างอิงแหล่งที่มาและชื่อผู้เขียน
ข้อสอบมี 30 ข้อ ให้เวลา 1 ชั่งโมง แต่เพื่อนของรตจิตรใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที เพราะเป็นปรนัย ถ้าเปลี่ยนเป็นข้อสอบอัตนัยเหมือนการสอบ PAT ในปีนี้ ก็คงใช้เวลาพอดี ๆ 1 ชั่วโมงมั้ง
ข้อสอบเป็นแบบ Random ดังนั้นอาจมีข้อสอบซ้ำ ๆ ได้ แต่ก็ไม่เรียงลำดับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดไปทุจริตในการสอบนะ
เกณฑ์การตัดสินการสอบข้อเขียน
ข้อสอบในการขอใบอนุญาตใบขับขี่รถยนต์ และหรือรถมอเตอร์ไซด์เหมือนกันหมด ต่างกันที่เกณฑ์คะแนนสอบผ่าน คือรถยนต์ ต้องไม่ต่ำกว่า 23 คะแนน แต่จักรยายนยนต์ต้อง 24 คะแนน แปลกตรงที่ว่าถ้าใครมาสอบขอใบอนุญาตใบขับขี่รถยนต์ และรถมอเตอร์ไซด์พร้อมกัน แทนที่จะให้สอบครั้งเดียวและใช้เกณฑ์ 24 คะแนนก็ได้ แต่กลับให้สอบ 2 ครั้ง
ถ้าตอนสอบรถยนต์ได้ 24 แล้วตอนสอบจักรยานยนต์ได้ 23 ก็ซวยไป ซวยแบบรูปข้างล่าง
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องตามลำดับ
(0) วัตถุประสงค์ที่รตจิตรเขียนเรื่องการสอบใบขับขีปี 2555
(1) เอกสารที่ต้องเตรียมไปที่กรมขนส่ง เมื่อจะไปสอบใบขับขี่
(2) ทางไปสนามสอบใบขับขี่ใหม่ กรมขนส่ง ตลิ่งชัน (พื้นที่ 2)
(3) ขั้นตอนรับบัตรคิว ก่อนสอบใบขับขี่
(4) การทดสอบสมรรถนะก่อนสอบใบขับขี่ข้อเขียน
(5) ฟังบรรยายก่อนสอบข้อเขียน
(6) ขั้นตอนการสอบใบขับขี่ข้อเขียน E-Exam
(7) เทคนิคการสอบใบขับขี่ข้อเขียนให้ผ่าน
(8) เวลารับบัตรคิวเพื่อสอบภาคปฏิบัติเพื่อขอใบอนุญาตขับขี่
(9) บรรยายการสาธิตการสอบภาคปฏิบัติเพื่อขอใบอนุญาตขับขี่ใหม่
(10) เทคนิค/วิธีการสอบใบขับขี่ภาคปฏิบัติ ท่าถอยหลังเทียบจอด (ท่าที่ 1)
(11) เทคนิค/วิธีการสอบใบขับขี่ภาคปฏิบัติ ท่าจอดทับเส้น (ท่าที่ 2)
(12) เทคนิค/วิธีการสอบใบขับขี่ภาคปฏิบัติ ถอยหลังตรง (ท่าที่ 3)
(13) ป้ายจราจรในสนามสอบใบขับขี่
(14) เทคนิค/วิธีการสอบใบขับขี่ภาคปฏิบัติ ขึ้นสะพาน (เกียร์กระปุก)
(15) การเสียค่าธรรมเนียมเพื่อใบอนุญาตใหม่