โรงกระดาษสา (Sa Paper)

โรงกระดาษสา เป็นอาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็ตพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ สร้างในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบคือตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2535 แต่ปัจจุบันไม่ได้มีการทำกระดาษสาแล้ว แต่มีเพื่อการสาธิต โดยด้านหน้าโครงการยังมีต้นสาให้เห็น ความจริงรตจิตรคิดว่าใบของต้นสานี้สวยมาก รตจิตรชอบมาก ต้นสามีลำต้น เหมือนต้นไม้ยืนต้น แต่ใบกลับเหมือนใบว่านที่มีรูปใบสวยมาก ถัดไปก็เป็นต้นสาต้นใหญ่

วัสดุที่ต้องเตรียม
1. เยื่อปอสาบดละเอียด ซึ่งได้จากต้นปอสา โดยตากให้แห้งก่อน และเอาเปลือกออกด้วย
2. โซดาไฟ
3. โซเดียมซิริเกท
4. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

ก่อนฟังการสอนวิธีทำกระดาษสา รตจิตรเดินดูผลงานที่โครงการเคยทำให้ เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระราชินีนารถ งามจริง ๆ ค่ะ ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แม้แต่ตาม เว็บไซท์ ด้านข้างมีเครื่องตีเยื่อ และเครื่องมือเก่า ๆ ยังคงตั้งแสดงให้ผู้เยี่ยมชมได้ดูกัน นอกจากนี้ ยังมีการติดบอร์ดแสดงวิธีการทำกระดาษสา (แบบช้อน) เพื่อน ๆ ลองอ่านกันดูนะคะ ตามที่รตจิตรไปเห็นการสาธิตมา ไม่ยากเลยค่ะ ในวันนั้นใช้ดอกเฟื่องฟ้า และใบเฟื่องฟ้าเสียส่วนใหญ่ เพราะมีกลีบและใบค่อนข้างบางเหมาะแก่การทำเป็นลายบนกระดาษสา

อย่างไรก็ตามถ้าใครชอบดอกหรือใบที่หนา ก็สามารถใช้วิธีตากแห้ง สำหรับรตจิตรคิดว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์อย่างมาก จึงไม่ยากที่จะหาดอกและใบที่บาง ๆ รตจิตรเป็นคนชอบห่อของขวัญด้วยกระดาษสา โดยเฉพาะช่วงหนึ่งที่ต้องอยู่กับชาวต่างชาติหลายคน ทำให้พอนำกระดาษสามาห่อของขวัญให้เขา พวกเขาชอบมาก แต่ใช้กระดาษสาห่อส่งไป หรือนำติดตัวไปที่ประเทศอเมริกา อาจถูกโยนทิ้งก่อนเข้าประเทศเขาก็ได้นะจ๊ะ

จากใจส่วนลึกที่รตจิตรเป็นคนชอบกระดาษสา ก็เลยซื้อกระดาษสาจากเชียงรายมาหลายแผ่น ปรากฏว่ามีแมงกินกระดาษเพียบ และถ้าซื้อลายที่เอาดอกไม้ หรือใบไม้หนา ๆ มา แม้จะดูสวยครั้งแรกที่ซื้อ แต่พอนานวันเข้า ลายพวกนี้จะล่วงหลุดก่อน ทำให้ไม่สวย จึงขอแนะว่าใช้ดอกไม้และใบไม้ที่บาง ๆ ดีกว่า เช่น ดอกเฟื่องฟ้า ดอกซากุระเมืองไทย หรือดอกอินทนินทร์ ดอกคูณ หรือดอกชัยพฤกษ์ ก็บางดี และสีสวยแจ่มด้วย เป็นต้น