สงวนลิขสิทธิ์โดย © รตจิตร
เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
Children Ordain as Little Monks At Wat Praek on
Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn on the occasion of her 58th birthday anniversary.
ที่มาของบทความงานบวช เณร 20 รูป
1 สัปดาห์ก่อนวันที่ 2 เม.ย. 2556 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ตอนที่รตจิตรใส่บาตร โดยใช้วิธีการขับรถไปตามทางบนถนนกาญจนาภิเษก เพราะที่หมู่บ้านไม่ได้อยู่ในที่ชุมชนซึ่งสามารถเดินออกมา แล้วพบพระสงฆ์มากพอในการใส่บาตรแต่ละครั้ง เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา เคยมีพระสงฆ์ประมาณ 2-3 รูปเข้าไปในหมูบ้าน จึงไม่ยากที่รตจิตรจะตื่นเช้าเพื่อมาใส่บาตรข้างหน้าบ้านเลย แต่มีโอกาสเช่นนี้เพียงไม่กี่เดือน เพราะ แรก ๆ ก็มีประมาณ 3 บ้านที่ตื่นมาใส่บาตร นานวันเข้าเหลือเพียงรตจิตรบ้านเดียว นอกจากนี้บางครั้งที่รตจิตรต้องไปทำงานต่างประเทศ กลายเป็นพระเดินเข้าหมู่บ้านกลับออกไปด้วยบาตรว่าง
วันนั้นพอรตจิตรใส่บาตรให้พระรูปหนึ่ง มาทราบภายหลังว่าท่านชื่อพระวิเชียร ท่านบอกว่า ถ้า รตจิตร ไม่ติดอะไรในวันอังคารที่ 2 เม.ย. ก็ขอเชิญไปร่วมงานบวชพระ 20 รูป ที่วัดแพรก เนื่องในโอกาสถวายเป็นพระราชกุศลให้แก่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เนื่องในโอกาสที่เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ รตจิตร ไม่ได้ไปร่วมงานบวชพระใหม่หลายปีแล้ว นานเกือบ 30 ปี มีโอกาสก็เพียงอนุโมทนา และร่วมทำบุญไตรจีวรด้วยเท่านั้นเอง พูดสั้น ๆ แล้วท่านก็เดินจากไป เพราะวัดแพรกค่อนข้างไกลจากสี่แยกตรงถนนนครอินทร์มาก รตจิตรเลยไม่ทราบว่าบวชเช้าหรือบ่าย ซึ่งส่วนใหญ่ที่นิยมคือบวชเช้า โดยจะเริ่มไม่เกิน 9 โมงเช้า หลังจากพระท่านฉันเช้าแล้วเสร็จ แต่บางทีอาจมีฤกษ์บวชบ่าย หรือชาวบ้านเรียกกันว่าบวชตลก ซึ่งนิยมบวชช่วงเวลาบ่าย 2-4 โมงเย็น
รตจิตรไปกับลูก เพราะเป็นโอกาสที่ลูกซึ่งเธอชอบทำบุญ ชอบเป็นผู้ให้อยู่แล้ว จะได้เห็นประเพณีดีงาม ที่นอกจากจะสืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของไทย ยังเป็นการทำนุบำรุงศาสนาพุทธอันเป็นศาสนาประจำชาติของประเทศด้วย และเป็นธรรมดาของคู่แม่ลูกคู่นี้ ที่ถ้าไปวัดก็ต้องเตรียมของถวายสังฆทาน และหนังสือนิยายการ์ตูนสอนเด็ก 2 ภาษาติดไม้ติดมือไปด้วย 20 กว่าเล่ม โชคดีมากเพราะเป็นการบวชเณรที่อายุไล่เลี่ยกัน ตั้งแต่ 7-12 ขวบค่ะ แต่เฉลี่ยอยู่ที่ 9 ขวบเห็นจะได้ ความจริงรตจิตรและลูกไม่ทราบเลยว่าเป็นการบวชเณร 20 รูป เพราะพระวิเชียรท่านใช้คำว่าบวชพระใหม่ และเท่าที่เราทำสังฆทานมาช่วง 3 เดือนนี้ไม่รู้กี่วัด นับจำนวนไม่ได้ รตจิตรพบแต่พระใหม่จริง ๆ พบเณรแค่ 2 รูปที่วัดส้มเกลี้ยง อ.บางใหญ่ นะจ๊ะ ไม่ใช่วัดส้มเกลี้ยงที่ อ.บางกรวยค่ะ
จาก 4 แยกฉิมพลีไปทางบางใหญ่ จ. นนทบุรี ประมาณ 4 ก.ม. ด้านซ้ายมือ จะมีซอยค่อนข้างจอแจ หน้าปากซอยมีป้ายโฆษณาเขียนตัวหนังสือใหญ่ ๆ ว่า หมู่บ้านโมดิวิลล่า แต่มีป้ายชื่อถนน ตัวเล็ก ๆ ว่า ถนนอัจฉริยะวัฒนา เข้าไปแค่ 10 เมตรก็เห็นวัดส้มเกลี้ยง อ.บางกรวยอยู่ด้านหน้าขวางซอย ให้เลี้ยวขวาไปตามทางซอยจริง ๆ มีสะพานเล็ก ๆ ให้ข้าม ไปทางซ้ายมือตามซอยอีกจะมีสะพานสูงขึ้นมาอีกนิด ลงสะพานก็เจอซุ้มประตูวัดแพรกเลยค่ะ ไม่น่าจะเกิน 2 ก.ม. ที่วัดแพรกแห่งนี้ เป็นวัดแรกที่ ในช่วงต้นปีใหม่ 2556 นี้ รตจิตรและลูก มาทำสังฆทาน ค่ะ และก็ปีก่อน ๆ ก็เป็นวัดที่รตจิตรเอาร่มยักษ์ที่ได้จาก SCB มาถวายพระ เพราะผ่านมาเห็นท่านกำลังพักเหนื่อยจากอากาศที่ร้อนจัด หลังจากกวาดลานวัดแล้ว วัดแพรกมักจัดงานประจำปีบ่อยเพราะเป็นวัดที่อยู่ในแหล่งชุมชนจริง ๆ วันเด็กของปีใหม่ที่ผ่านมา รตจิตรมาเจอกลุ่ม กศน. จัดงานประจำปี 2556 โดยมีประธานชมรมรักบ้านเกิดเป็นประธานในการจัดงานพอดี
เนื่องจากเช้าวันอังคารที่ 2 เม.ย. รตจิตรและลูกก็ตื่นเช้าไปใส่บาตรเช่นเคย รู้สึกเพลียมาก เลยกลับมานอนสักงีบใหญ่ โชคดีสะดุ้งตื่น ไปทันงานบวช พวกเณรกำลังกุลีกุจอนุ่งห่มจีวร โดยมีพระรุ่นพี่ช่วยกันอย่างขมีขมัน รตจิตรเห็นแม่มบางคนร้องไห้เพราะตื้นตันที่ลูกมีโอกาสบวชในวันนี้ และอีกหลาย ๆ คนยิ้มค้างอยู่อย่างนั้น รตจิตรเองก็พลอยน้ำตาคลอไปด้วย เด็กพวกนี้โชคดีหลายประการ ได้แก่
– เกิดมาในยุคที่มีพระพุทธศาสนา
– และเป็นสมัยที่มีพระมหากษัตริย์ ในหลวงของประชาชนชาวไทย ทรงอุปถัมภ์ศาสนาอย่างดียิ่ง
– เด็กเหล่านี้อาศัยอยู่ในละแวกที่มีวัด
– มีพ่อแม่ประเสริฐที่ฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนา
– มีเพื่อนบ้านในชุมชนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันจำนวนมาก คือมีเพื่อนที่เป็นกัลยาณมิตร
– ได้ใช้ประโยชน์ในวัดปิดภาคเรียนอย่างคุ้มค่าแก่ชีวิต
– หลังจากบวชเณร แม้สึกออกมา แต่ถ้าได้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในศีล ในธรรมตลอดไป ก็จะมีคุณประโยชน์ไม่น้อยแก่ตัวเอง ครอบครัว เพื่อน ๆ และศาสนาของชาติต่อไป
หลังจากที่แม่และพวกญาติโยมตั้งนะโม 3 จบ รับศีล แล้ว พระสงฆ์ผู้เป็นพระอุปัชฌายะ 9 รูปได้สวดนะโม ต่อด้วยพาหุง ตามด้วยบทสวดให้พร คือสวด สพฺพีติโย หรือ บทสามัญญานุโมทนาคาถา หรือ คาถาที่พระสวดทุกครั้งที่อนุโมทนาบุญกุศลที่ญาติโยมได้ทำแล้ว
“ สพฺพีติโย วิวชฺชนฺตุ สพฺพโรโค วินสฺสตุ มา เต ภวตฺวนฺตราโย สุขี ทีฆายุโก ภว อภิวาทนสีลิสฺส นิจฺจํ วุฑฺฒาปจายิโน จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ”
แม่และญาติโยมถวายสังฆทาน รตจิตรก็รีบถวายหนังสือที่เตรียมมา ซึ่งเณรและทุกคนในวัดต่างก็ไม่รู้จักว่า รตจิตรและลูกเป็นใครมาจากไหน อยู่ ๆ ก็มาร่วมถวายปัจจัยด้วย เณรรับและลุกขึ้นเข้าแถวตักข้าวใส่จาน จากนั้นก็ขึ้นประจำที่ แม่และญาติโยมมาตักข้าวเติมใส่จานจนล้น พร้อมทั้งถวายภัตตาหารเพื่อพระสงฆ์และเณรฉันเพลต่อไป
วันนี้เป็นอีก 1 วันที่รตจิตรรู้สึกปลาบปลื้มมาก การทำบุญ การร่วมอนุโมทนาบุญมีหลายแบบ ล้วนแล้วแต่ทำให้มีความสุขใจไปนาน แต่การร่วมงานบวชเณรน้อยในวันนี้ เพิ่มความอิ่มใจ ความสุขใจมากขึ้นหลายกอง เพราะภาพที่น่ารัก ๆ หลาย ๆ ภาพของเณรน้อย 20 รูป คงทำให้เพื่อน ๆ เถียงไม่ได้ พูดไม่ออกว่าเป็นภาพที่หาดูได้ยากจริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพ ฯ ปัจจุบัน
ก่อนกลับรตจิตรนำภาพน่ารัก ๆ ที่หาดูได้ยากมาฝากเพื่อน ๆ ด้วยจ้า เป็นภาพที่ใครเห็น ใครก็ต้องยิ้ม เพื่อน ๆ คงไม่เถียงว่า ดูภาพเณรเหล่านี้แล้ว สบายใจจังค่ะ ก่อนจบ รตจิตรเก็บภาพโอ่งน้ำพุน่ารัก ๆ มาฝาก เจาะโอ่ง และใช้แก้วปิดให้ดูโปร่ง เห็นน้ำด้านในเคลื่อนตลอดเวลา ครั้งต่อไป จะหาเรื่องดี ๆ มีประโยชน์มาฝากตามเคยนะจ๊ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อน พอหอมปากหอมคอ สวัสดี
สงวนลิขสิทธิ์โดย © รตจิตร