เช้าวันพุธที่ 30 มกราคม ผลการตรวจบอกว่า อุจจาระค้าง จน CO2 แน่นท้อง หายใจลำบาก หมอที่เป็นเจ้าของคนไข้ หรือหมอสมอง ก็ตรวจดูอาการทั่วไป พร้อมทั้งหมอคนอื่น ๆ ก็บอกว่า ที่ห่วงคือปอดอาจติดเชื้อ ความจริงเท่าที่รตจิตรรับรู้มานานมากก็คือ ในภาวะสิ่งแวดล้อมปัจจุบันนี้ ปอดของคนเราทุกคนติดเชื้อทั้งนั้นแหละ อยู่ที่จะมากหรือน้อย แม่ถูกสอดเครื่องช่วยหายใจเข้าไปในหลอดลม เมื่อมีสิ่งระคายคอ ก็ย่อมมีเสมหะ นางพยาบาลก็เปิดสายยาง เพื่อดูดเสมหะออก ซึ่งส่วนมากไม่ได้ใส่ถุงมือ แม้พวกคุณจะเช็ดด้วย Alcohol แต่ก็เช็ดคร่าว ๆ บางคนไม่ได้เช็ดเสียด้วย เอาเร็วเข้าว่า เอาสะดวกไว้ก่อน โอกาสติดเชื้อของแม่ยิ่งมีสูง
ยิ่งไปกว่านั้น ห้อง ICU ถูกออกแบบให้ทิ้งสิ่งปฏิกูลในห้องเล็ก ๆ ซึ่งติดกับห้องที่แม่อยู่ โดยมีประตูอีกชั้นหนึ่งเป็นด่านป้องกันไว้อีกที เนื่องจากแม่ของรตจิตรเป็นคนผอม ตัวเล็ก ๆ แม่ไม่ชอบนอนห้องแอร์ พวกเราจึงขอเปิดประตูห้องแทน แต่นางพยาบาลถือเอาแต่ความสะดวกจึงเอาถังปฏิกูลทั้งหมดวางด้านหน้าห้องที่แม่พักอยู่ ทั้ง ๆ ที่ห้อง ICU designed ไว้ดีแล้วคือให้วางถังทิ้งทั้งหมดด้านนอก พอรตจิตรไปพูด นางพยาบาล กลับบอกว่าเพิ่งวางวันนี้ ทั้ง ๆ ที่รตจิตรเห็นวางถังขยะพวกนี้ไว้หน้าห้องแม่ทุกวัน มีคนเตือนว่าอย่าเรียนให้ผู้ใหญ่รู้ เพราะแม่อยู่กับนางพยาบาลพวกนี้ แต่พวกเราเครียดมาก ทำไมทำกับแม่แบบนี้ เหมือนแม่ไม่ใช่มนุษย์ นางพยาบาลพวกนี้โกหกเก่ง เก่งมาก ๆ
พุธที่ 30 รตจิตรไปเยี่ยมแม่โรงพยาบาล หมอประจำตัวแม่หลายคนมาก ทุกคนมาหมด ได้แก่หมอด้านท้อง ด้านหัวใจ หมอด้านปอด ด้านเส้นเลือดตีบ และหมอด้านสมอง แต่จะมีหมอหลักเพียงท่านเดียว ซึ่งเป็นหมอด้านสมองนั่นเอง ที่เป็นคนบอกให้เพิ่มหมอด้านเกลือแร่ หมอด้านกระเพาะ และหมอด้านติดเชื้อในปอด ตลอดจนวันต่อ ๆ มาบอกให้เพิ่มหมอกระดูก ซึ่งจำเป็นมากในภายหลัง ระบบการหายใจยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ แต่ผลการตรวจปอดของแม่ ไม่ค่อยดี แต่นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไร หลังจากเจาะเลือดแม่ไปตรวจอีกครั้ง รตจิตรก็ไม่เข้าใจว่า หมอเวรก็เพิ่งให้เจาะไปหลอดใหญ่เมื่อคืน แล้วนี่ยังไม่ทันข้ามวันก็ให้เจาะเลือดหลอดใหญ่อีกแล้ว
รตจิตรงงมากที่เห็นสภาพของแม่ ต้องถูกผูกเชือกทั้งที่มือ และเท้าติดกับเตียง เพราะหาว่าแม่ดิ้น พอแม่เห็นรตจิตร แม่จับมือรตจิตรและยกตัวขึ้นมาเกือบครึ่งตัว สายตามของแม่มองรตจิตรเหมือนจะบอกว่า เอาแม่ออกไปที แม่อยากกลับบ้าน พอรตจิตรปลอบแม่ แม่สงบลงพร้อมน้ำตา ไหลออกจากที่หางตาซ้าย
รตจิตร อดไม่ได้ที่จะวิ่งออกจากห้องมาร้องไห้ สงสารแม่มาก ขอบตาของแม่เริ่มคล้ำเหมือนอดหลับอดนอน ซึ่งแน่อยู่แล้ว จากสภาพที่รตจิตรเป็นสวยระโยงระยางเต็มไปหมด เครื่องอะไรต่อมิอะไรก็เต็มห้องที่แม่อยู่เต็มไปหมด รตจิตรสงสารแม่มาก กำลังตัดสินใจจะเอาแม่ออกจากโรงพยาบาลวันนั้น อยากดึงสายที่อยู่ในปากแม่ออก แม้แต่สายฉี่ สายให้น้ำเกลือ สายให้อาหาร แม่ขมวดคิ้วตลอดเวลา แม้ว่าหลับไปแล้วเพราะฤทธิ์ยา แม่….พวกเราสงสารแม่เหลือเกิน ไม่ควรเอาแม่มาทรมานอย่างนี้เลย
เช้าวันรุ่งขึ้น วันพฤหัสที่ 31 มกราคม เหมือนเมฆฝนรุมเล้า พายุโหมกระหน่ำ วันนี้เป็นครั้งแรกที่รตจิตรเห็นน้องชายร้องไห้ ร้องไห้มากจริง ๆ ทำไมสภาพแม่ถึงแย่ลงขนาดนี้ เพียงวันเดียว เพียงชั่วค่ำคืนที่ ICU กระดูกเหนือเข่าและใต้เข่าซ้ายของแม่แตกหมด ทำให้เลือดออกมาเป็นจ้ำ ๆ เต็มขาซ้าย มีเลือดซึมออกมาตามผิวหนังของแม่อย่างเห็นได้ชัด เพราะผิวของแม่ค่อนข้างบาง กระดูกขาที่แตกเหมือนว่าแม่ถูกพลิกตัว และขาไปกระแทกถูกที่กั้นเตียง ทำไมนางพยาบาลต้องทำให้แม่เป็นเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจพวกเรามาก แม่ทรมานเหลือเกิน แม่แก่เกินไปที่จะได้รับความทรมานขนาดนี้ แม่พูดไม่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ พวกเราเดาออกแม่พูดว่าอยากกลับบ้าน อยากกลับบ้านมาก แม่เจ็บมาก หลังจากที่รตจิตรถามว่าแม่เจ็บขามั้ย น้ำตาแม่ไหล…. แม่มอง รตจิตร แล้วยกมือเพื่อให้รตจิตรจับแม่ เหมือนบอกว่าอย่าทิ้งแม่ไว้เช่นนี้ มันทรมานมาก อย่าทิ้งให้แม่อยู่กับพวกนี้ อย่าทิ้งให้แม่อยู่ที่นี่…… แล้วน้ำตาของแม่ก็เริ่มคลอ แม่อดทนมาก อดทนที่สุดเท่าที่สุดเท่าที่รตจิตรจำความได้ เพราะไม่เคยมีครั้งไหนที่แม่ต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสเท่าครั้งนี้
น้องชายถามนางพยาบาลว่ามีเอาที่กั้นลงหรือไม่ พวกเธอตอบว่าเอาลง ทั้ง ๆ ที่พวกเราเห็นกับตาว่า บ่อยครั้งที่นางพยาบาลทำอะไร ไม่ได้เอาที่กั้นลงเลย พวกเธอโกหก
รตจิตรมารู้ตอนเช้าของวันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ว่า คืนวันพฤหัสที่ 31 มกราคม กระดูกเหนือเข่าและใต้เข่าขวาของแม่แตกอีกแล้ว ในลักษณะเดียวกับการแตกที่ขาข้างซ้าย
ทุกคืนที่รตจิตรกลับบ้าน มีน้ำตาเป็นเพื่อนเท่านั้น เห็นแต่ภาพที่แม่แสดงอาการ เพราะพูดอะไร พวกเราก็ไม่ได้ยินเพราะไอสายท่อช่วยหายใจเป็นตัวกั้นการสื่อสารระหว่างแม่กับลูก ๆ อาการของแม่ที่อยากกลับบ้าน ทำไมมาทิ้งแม่ไว้ที่โรงพยาบาลนรกแห่งนี้ รตจิตรอยากให้แม่กลับทุกวัน พวกเรารู้สึกผิดที่ตัดสินใจเอาแม่เข้าไปโดยไม่ถามแม่ก่อน โดยไม่บอกแม่ให้รู้ตัวด้วย
♦ บทนำ บันทึกรักถึง “แม่”
♦ วันที่ตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต
♦ วันที่แม่เข้าห้อง ICU ของโรงพยาบาล
♦ จดหมายด่วนที่สุดถึงประธานโรงพยาบาล
♦ การกระทำที่ไร้มนุษยธรรมของหมอ
♦ หลังจากแม่จากไป
สงวนลิขสิทธิ์โดย © รตจิตร
~~~~
Pingback: คุณเคยถูกเพื่อน ๆ ดูถูก หรือรังเกียจมั้ย แบบว่าเป็นตัวเสนียดของห้อง? | Sw-Eden.NET