วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2557 ซึ่งตรงกับวันสงกรานต์ หรือวันปีใหม่ของไทย รตจิตรได้ไปร่วมทำบุญพิธีสวดมาติกาบังสุกุลอัฐิ ณ วัดญาณเวศกวัน ในวันนั้น พระครูปลัดสุวัฒนพรหมคุณ (รองเจ้าอาวาส) ได้เล่าเรื่อง เสนกชาดก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้เห็นว่า คนที่มีปัญญา สามารถใช้ปัญญาช่วยคนอื่นได้ แม้จะเป็นคนมีปัญญาเพียงคนเดียวก็ตาม ซึ่งตรงกับสถานการณ์บ้านเมืองไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างกลุ่ม กปปส. และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รตจิตรขอสรุปที่พระครูปลัด ฯ เล่าเรื่อง “เสนากชาดก” ไว้ได้ดังนี้
เสนกบัณฑิต แห่งเมืองตักกศิลา เข้ามารับราชการ ณ เมืองพาราณสี (Varanasi) ซึ่งมีพระราชาพระนามว่า ชนก ในฐานะอำมาตย์ฉลาดประจำเมือง มีความสามารถแสดงธรรมด้วยพุทธลีลาธรรมกถา คล้ายธรรมกถาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ครั้งหนึ่งมี พราหมณ์เฒ่าคนหนึ่ง (Brahmin beggar) หลังจากขอเงินได้ 1,000 กหาปณะ ก็นำมาฝากไว้ที่พราหมณ์เพื่อน เวลาผ่านไปเป็นปี ๆ ก็ยังไม่มาเอาคืน พราหมณ์เพื่อนคิดว่า พราหมณ์เฒ่าตายคงไม่มาเอาเงินแล้ว จึงนำไปใช้จ่ายจนหมอ พอพราหมณ์เฒ่ามาถึง พราหมณ์เพื่อนก็ไม่สามารถหาใช้คืนได้ จึงยกลูกสาวอายุเพียง 17 ให้
ด้วยความไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอ ซึ่งมี 16 ประการ (ด้านล่าง) อยู่มาวันหนึ่งนางซึ่งไม่อิ่มด้วยเมถุนธรรม คิดวางแผนให้พราหมณ์เฒ่าออกไปข้างนอก โดยอ้างว่าทำงานไม่ไหว ต้องจ้างทาสหญิงชาย พราหมณ์เฒ่าบอกว่า นั่นต้องใช้เงิน นางก็ให้ไปเที่ยวขอเงินสิ พราหมณ์เฒ่าทำตาม โดยนางห่อผ้าข้าวตูผงเตรียมให้ไว้ในไถ้หนัง พราหมณ์เฒ่าขอเงินได้ 700 กหาปณะ จึงกลับ ระหว่างทางพราหมณ์เฒ่าได้พักเหนื่อย แกะห่อผ้ากินข้าวตู โดยไม่ได้ผูกห่อผ้าดังเดิม ก่อนที่จะลงไปกินน้ำ งูเห่าได้เลื้อยเข้าไปกินข้าวตูในห่อ อยู่ เมื่อพราหมณ์เฒ่ากลับมา ก็ผูกไถ้ห่อข้าวตู
ระหว่างทางยืนรุกขเทวดาได้บอกพราหมณ์เฒ่าว่า ถ้าท่านไปถึงบ้าน ภรรยาท่านจะตาย ถ้าท่านไปไม่ถึงบ้าน ท่านจะตาย แล้วเทวดาก็หายไม พอพราหมณ์เฒ่าเดินถึงพระนครพาราณสี วันนั้น เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ มีคนจำนวนมากเดินถือดอกไม้ เมื่อพราหมณ์เฒ่าสอบถามได้ความว่า จะไปฟังธรรมกถาของเสนก พราหมณ์เฒ่าจึงตามไปด้วย เมื่อเสนกแสดงธรรมแล้วเสร็จ ทุกคนมีใบหน้ายิ้มชื่นชมเสนก พอเสนกเห็นพราหมณ์เฒ่าร้องไห้อยู่คนเดียวเพราะกลัวความตาย เสนกจึงสอบถามเรื่องราว และคิดว่าห่อข้างตูคือปัญหาจึงให้โยนทิ้ง และเขี่ยดู จึงรู้ว่ามีงูเห่า พราหมณ์เฒ่าศรัทธาคิดจะมองเงิน 700 กหาปณะให้เสนก แต่เสนกกลับมอบให้พราหมณ์เฒ่าเพิ่มรวมเป็น 1000 กหาปณะ โดยให้นำเงินไปซ่อนที่ต้นไม้ก่อนเข้าบ้าน พราหมณ์เฒ่าทำตาม แล้วค่อยไปเรียกนางที่เป็นภรรยา นางตกใจรีบปิดไฟ แล้วไล่ชายชู้ (Adulterer) ให้หลบออกไป เมื่อนางรู้จากพราหมณ์เฒ่าว่าไม่ได้เงินก็โมโห จนพราหมณ์เฒ่าต้องบอกที่ซ่อนของเงิน นางรีบบอกชู้ให้ไปชิงเอาเงินก่อน
เช้าวันรุ่ง พราหมณ์เฒ่าไม่พบเงินที่ซ่อน จึงไปเล่าให้เสนกฟัง เสนกออกอุบายให้พราหมณ์เฒ่าจัดงานเลี้ยง 7 วันและให้พราหมณ์เฒ่าเชิญเพื่อนมาทั้ง 7 วัน ภรรยาก็ให้เชิญเพื่อนเช่นกัน แล้ววันที่ 6 ให้มาบอกว่าภรรยาเชิญใครมางานเลี้ยงเป็นประจำ พอพราหมณ์เฒ่ามาเล่าและจำหน้าชายคนที่ภรรยาเชิญมาประจำได้ วันที่ 7 เสนกมางานเลี้ยงด้วย และบอกว่าพราหมณ์ชู้เป็นผู้เอาเงินไป ครั้งแรกพราหมณ์ชู้ไม่ยอมรับ จนเสนกต้องบอกว่าตนคือใคร พราหมณ์ชู้กลัวจึงสารภาพ แล้วถูกลงโทษขับไล่ออกจากเมืองไป เพียงปัญญาของเสนกบัณฑิต ก็สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้
ตอนนี้รตจิตรขอสรุปเรื่องที่เพื่อน ๆ ควรรู้ ตามที่พระครูปลัด ฯ แสดงธรรมไว้พร้อมกับเรื่อง เสนกชาดก เกี่ยวกับ “ความไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอ” ซึ่งมี 16 ประการ ดังนี้
1. มหาสมุทร ไม่รู้จักอิ่มด้วยน้ำที่ไหลมาตลอดทุกสารทิศ
2. ไฟ ไม่รู้จักอิ่มด้วยเชื้อไฟที่มาเติม
3. พระราชา ไม่รู้จักอิ่มด้วยราชสมบัติ
4. คนพาล ไม่รู้จักอิ่มด้วยบาป
5. หญิง ไม่รู้จักอิ่มด้วยของ 3 อย่างเหล่านี้ คือ เมถุนธรรม, เครื่องประดับ, และการคลอดบุตร
6. พราหมณ์ ไม่รู้จักอิ่มด้วยมนต์
7. ผู้ได้ฌาน ไม่รู้จักอิ่มด้วยการเข้าฌาน
8. พระเสขบุคคล ไม่รู้จักอิ่มด้วยการให้ทาน
9. ผู้มักน้อย ไม่รู้จักอิ่มด้วยธุดงค์คุณ
10. ผู้เริ่มความเพียร ไม่รู้จักอิ่มด้วยความเพียร
11. ผู้แสดงธรรม/เทศน์ ไม่รู้จักอิ่มด้วยการสนทนาธรรม
12. ผู้กล้าหาญ ไม่รู้จักอิ่มด้วยบริษัท
13. ผู้มีศรัทธา ไม่รู้จักอิ่มด้วยการอุปการะพระสงฆ์
14. ทายก ไม่รู้จักอิ่มด้วยการบริจาค
15. บัณฑิต ไม่รู้จักอิ่มด้วยการฟังธรรม
16. บริษัท 4 ไม่รู้จักอิ่มด้วยในการเฝ้าพระพุทธเจ้า