พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่านเป็นอีกที่หนึ่งที่คนที่ไปเที่ยวเมืองน่านไม่ควรพลาด เพราะที่นี่มีซุ้มต้นลันทม หรือลีลาวดี ที่สวยงาม และยังมีวัตถุโบราณที่เป็นของที่บอกเล่าประวัติศาสตร์เมืองน่านที่สำคัญมากมาย เช่น งาช้างดำ ที่มีชื่อเสียงเป็นต้น
รตจิตรไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นี้ในช่วงที่ตึกปิดซ้อมแซมพอดี แต่ก็ไม่เป็นไร แม้จะเสียดายไปนิดนึง แต่รตจิตรก็ได้ชมนิทรรศการชั่วคราว ได้เห็นรูปและอักษรโบราณที่ถูกวาดบนอิฐเก่าแก่ สว อิเฎล เลยตั้งชื่อมันว่าตัวบรุ๋ย ซึ่งมีลักษณะคล้ายมนุษย์ที่ สว อิเฎลชอบวาดมาก่อนหน้านี้ ที่นิทรรศกาบชั่วคราวยังมีหุ่นจำลองงาช้างดำ และใบปลิวจัดไว้
หลังจากที่รตจิตรชมนิทรรศการแล้ว ก็เดินไปถ่ายภาพที่ซุ่มลีลาวดีที่มีชื่อเสียง บริเวรสนามหญ้าทางเข้ามาในเขตของพิพิธภัณฑ์ นอกจากนี้ ถ้าไปยืนถ่ายภาพจากหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์และหันหน้ากล้องไปทางซุ้มลีลาวดี ก็จะเห็นฉากหลังเป็นวัดช้างค้ำวรวิหาร ดูแล้วคิดถึงฉากยอดฮิตของวัดพระแก้วที่กรุงเทพมหานคร ประมาณว่า มีสนามหญ้ากว้างๆ และมีเจดีย์เป็นฉากหลัง สวยงามมากทีเดียว
ที่ด้านหลังอาคารพิพิธภัณฑ์ มีทางเดินเล็กๆ เชื่อมต่อไปถึงห้องสมุดประชาชนน่าน รตจิตรได้นำหนังสือไปบริจาคให้ที่นี่ด้วย อิ่มบุญมากค่ะ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน
งาช้างดำ
ซุ้มต้นไม้ ลีลาวดี
สาวสวยสุด sexy ที่ซุ้มลีลาวดี
คำขวัญจังหวัดน่าน ที่หน้าพิพิธภัณฑ์
แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดํา จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง
มนุษย์บรุบบรุ๋ย บนก้อนอิฐ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน
มนุษย์บรุบบรุ๋ย ออกจากก้อนอิฐ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน
ด้านล่างเป็นภาพที่วาดก่อนไปเที่ยวน่าน แต่พบว่ามีหน้าตาตัวละครคล้ายมนุษย์บรุบบรุ๋ย บนก้อนอิฐ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน