เขียนโดย รตจิตร
Authored by Ratajit | May 30, 2017
**งานเขียนของรตจิตรนี้ เขียนจากประสบการณ์จริง ที่รตจิตรได้เลี้ยงลูกหมาแล้วตายครั้งแรก งานเขียนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นวิทยาทานให้ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่รักสุนัข และจำเป็นต้องเลี้ยงสุนัขตั้งแต่แรกเกิด แต่เป็นคนเลี้ยงมือใหม่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน หรือเลี้ยงน้องหมาที่ไม่ค่อยสมบูรณ์ ไม่ค่อยแข็งแรง บทความนี้อาจช่วยให้เพื่อน ๆ รู้สึกสบายใจขึ้น มีทางออกกับปัญหา หรือป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับลูกหมาก็ได้ ทั้งนี้ห้ามมิให้คัดลอก หรือนำไปใช้เพื่อการค้า หรือนำไปใช้ในเว็บไซต์อื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเว็บไซต์ที่มีโฆษณา ไม่ว่ากรณีใด ๆ มิเช่นนั้นจะถือว่าขโมยลิขสิทธิ์ทั้งงานเขียน และงานศิลป์ จากภาพถ่าย
“ลูกสุนัข หรือสุนัขที่โตแล้วก็ตาม เมื่อเคยชักแล้ว มักจะชักอีก และการชักของสุนัขตั้งแต่ครั้งที่ 2 โดยทั่วไปไม่มีผลดีต่อสุนัขเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกสุนัข” บทความนี้เขียนช่วงชีวิตของ Koni คือ ช่วงเวลาวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2559 – 25 พฤศจิกายน 2559
วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม ปี 2559
เป็นวันตายครบ 1 ปีขอหมาสุดที่รัก รักที่สุดของครอบครัวรตจิตร Jordizon โดยปกติพวกเราจะทำบุญใส่บาตรให้ Jordison เสมอ ๆ ไม่ว่าการใส่บาตร ถวายสังฆทาน หรือการฟังธรรมะ และการเจริญสติ ตลอดจนการปฏิบัติธรรมภาวนาก็ตาม พอถึงวันครบรอบ 1 ปีที่ Jordison ตาย เช่นเคย วันนั้นตรงกับวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2559 รตจิตรและครอบครัว ไปถวายสังฆทาน 3 วัด ตามถนนนครอินทร์ จังหวัดนนทบุรี คือ (1) วัดสิงห์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้พ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้วของครอบครัวรตจิตร (2) วัดอุทยาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลเสด็จเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ (ในหลวง รัชกาลที่ ๙) และ(3) วัดไทยเจริญการค้า เพื่ออุทิศให้ Jordison
พอถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์แล้วเสร็จ ก่อนที่พวกเราจะกลับขึ้นรถ รตจิตรเห็นลูกหมาตัวหนึ่ง กำลังถูกหมาตัวใหญ่หนึ่งรังแก่ จนต้องมุดเข้าไปอยู่ระหว่างกระถางต้นไม้ หน้าตาคล้ายลูกแพนด้ามากเป็นตัวผู้ (ภายหลังเราตั้งชื่อให้ว่า ปูติน Putin) พระท่านก็เชียร์ให้เอามาเลี้ยง คอกนี้มี 4ตัวเกิดประมาณวันที่ 22 กันยายน 2559 แต่พ่อแม่ตายหมดเพราะแม่โดนคนใจร้ายวางยาเบื่อ รตจิตรตกลงเพราะสงสาร สักครู่ก่อนพวกเราจะลากลับ ก็ได้ยินลูกสุนัขอีกตัวหนึ่งร้อง น่าสงสารมาก พระท่านก็เชียร์ให้เอาตัวนี้ไปเลี้ยงอีก แต่พวกเราดูแล้วไม่ค่อยแข็งแรง เพราะขามีปัญหาเดินกระเผก และตัวอ่อนปวกเปียก (ภายหลังเราตั้งชื่อว่า Koni) ทั้ง ๆ ที่สงสารนะ แต่เราไม่ค่อยอยากเอา Koni ไปเลี้ยงเท่าไร เพราะไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเลี้ยงรอดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พระรูปนั้นพยายามเชียร์ ยื่น Koni ส่งให้พวกเรา รตจิตร สัญญากับท่านว่า จะพยายามเลี้ยงลูกสุนัข 2 ตัวนี้ อย่างดีที่่สุด อย่างไรก็ตามหากเลี้ยงไม่ไหว จะเอามาคืนท่านตัวหนึ่ง เพราะรตจิตร เคยเลี้ยงสุนัขแค่ครั้งละตัว รตจิตร ยอมรับว่าการเลี้ยงสุนัข 2 ตัวดีมาก ซึ่งถ้ามีเวลา รตจิตร จะเยนเปรียบเทียบให้ฟังครั้งต่อ ๆ ไป
คืนแรกวันนั้น 23 ตุลาคม 2559 เราเลี้ยง Putin และ Koni ไว้ในห้องน้ำในบ้าน เพราะรู้สึกปลอดภัยกว่าเลี้ยงนอกบ้านสำหรับลูกหมา และไม่มีลมโกรกด้วย ตอนดึกวันนั้นเอง ลูกของรตจิตร รู้สึกเป็นห่วง อยากลงไปดูน้องหมา พบว่า Koni ชัก กัดฟันตัวเอง ขาเกร็งหมด รตจิตรรีบลงไปนวด Koni และพยายามทำให้ตัว Koni อุ่นขึ้น จนอาการ Koni กลับมาดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นปกติ 1 เดือนผ่านไป ขาของ Koni ที่เดินกระเผกเริ่มดีขึ้น เพราะรตจิตรคอยนวดและยืดขาให้ เพื่อเป็นการทำกายภาพบำบัดให้ Koni
ผ่านไป 1 เดือนเศษ ทั้ง Putin และ Koni หนักประมาณ 4.5 และ 4 กิโลกรัม จากวันแรกที่เราเจอคือ 1 กิโลกรัม พวกเรากะว่าจะเอาน้องหมาทั้งคู่ ไปเที่ยวทะเลที่ระยอง เพื่อให้ Koni ได้ว่ายน้ำทะเลแบบธรรมชาติ ซึ่งเป็นการบริหารขาให้ Koni เหมือนกับที่เราเคยบริหารให้ Jordison หมาตัวเก่าที่ถูกเหยียบขาหลัง ทำให้เดินไม่ลงเต็มขา พอได้ว่ายน้ำบ่อย ๆ ก็หายเป็นปกติ ตอนนั้น Putin และ Koni อายุประมาณ 2 เดือนเศษ ก่อนที่จะพาลูกสุนัขทั้งคู่เดินทางไกล รตจิตรได้ให้น้องหมาออกกำลังกายทุกเย็นตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน โดยการวิ่งนอกบ้าน แม้ว่าวันแรก ๆ พวกเราต้องลาก Koni ตลอด แต่ก็ยอมเพื่อเป็นการ Warm ให้ Putin และ Koni
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2559
การเดินทางจากกรุงเทพ ฯ ไประยอง ลูกของรตจิตรเป็นคนขับ ทำให้รตจิตร มีเวลาเล่นกับ Putin และ Koni ด้านหลังอย่างสบาย เราแวะพักเป็นระยะ เพื่อเอาน้องหมาลงไปเดินเล่นจะได้ไม่เมารถ เหตุการณ์เป็นไปด้วยดี เย็นวันนั้นเราให้ Putin และ Koni ลองว่ายน้ำในทะเลระยอง ปรากฎว่า Koni ว่ายน้ำทะเลได้เก่งกว่า Putin มากเหมือนว่าอดีตชาติเคยเป็นปลามาก่อน พอตกดึก ทั้ง Putin และ Koni นอนเบียดกัน พวกเราคิดว่าน้องหมาคงหนาวมาก เพราะพวกรตจิตร นอนเปิดแอร์ เราเพียงแต่ห่มผ้าห่มให้ Putin และ Koni หลาย ๆ ผืน แต่ก็ไม่มีอะไรดีกว่าไออุ่น และการไม่เปิดแอร์ ความจริงรตจิตรควรเตรียมปรอทไปด้วย เผื่อไว้วัดอุทณหภูมิของ Putin และ Koni เพราะอุณหภูมิของลูกหมาไม่ควรต่ำกว่าประมาณ 100 F หรือ 36 C
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2559
พวกรตจิตร เดินสายทำบุญต่อ เราเห็น Koni เริ่มอ่อนปวกเปียกอีก พวกเราจึงเปลี่ยนแผนโดยตัดโปรแกรมเที่ยวออกหลายที่ และไม่เอา Putin และ Koni ไปด้วย แต่ให้ทั้งคู่พักอยู่โรงแรม เพราะเราเป็นห่วง เนื่องจากด้านนอกระเบียงห้องที่พวกรตจิตร พักนั้นมีแต่มด พวกเรากลัวว่าจะเข้ามากัดลูกหมาของเรา จึงตัดสินใจเปิดแอร์ให้น้องหมาทั้ง 2 ตัว พวกเราคิดว่าถ้าได้พักสักหน่อย Putin และ Koni จะดีขึ้น ทั้ง ๆ ที่ความจริงพวกเราไม่ควรให้ลูกสุนัขอยู่ห้องแอร์ ควรให้ลูกสุนัขนอนเบียดกันอยู่ในลังกระดาษ เพราะความชะล่าใจของพวกรตจิตร ยิ่งไปกว่านั้น หากเราเอาปรอทไปด้วย เราคงได้วัดอุณหภูมิของ Koni เพราะ Koni ยังเป็นลูกหมา ระบบการทำงานของร่างกายอาจ ยังไม่สามารถปรับอุณหภูมิของร่างกายได้สมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้น เราลืมไปว่า Koni เคยชักมาแล้วครั้งหนึ่ง
เย็นวันที่ 25 พฤศจิกายน พวก รตจิตร ตัดโปรแกรมหลายที่ เพื่อรีบกลับมาหา Putin และ Koni เพราะรู้สึกเป็นห่วง ภาพที่รตจิตรเห็น คือสภาพ Koni เหมือนซาก Koni เห่า 1 ครั้ง พวกเรารีบวิ่งเข้าไปดู Koni พยายามเงยหน้าดู รตจิตร และคนอื่น ๆ จนครบ แล้วก็ชักอีกครั้ง รตจิตรพยายามปั้มหัวใจ และนวด Koni แบบครั้งแรกที่ช่วยชีวิต Koni ไว้ แต่ครั้งนี้ไม่สามารถยื้อชีวิต Koni ได้อีก เหมือนว่า Putin ก็รู้ มันพยายามเข้ามาดม Koni หลายครั้ง
5 สัปดาห์ ที่รตจิตรเลี้ยง Koni มา สำหรับบางคนจะรู้สึกว่าสั้นมากและอาจยังไม่ค่อยผูกพันธ์กับลูกสุนัข แต่สำหรับครอบครัว รตจิตร แล้ว เรารัก Putin และ Koni มาก พวกเรารู้สึกว่า Putin และ Koni ที่มาจากครอบครัวเดียวกัน ควรเลี้ยงอยู่ด้วยกัน พวกรตจิตรเสียน้ำตามากมาย พอ Koni ตาย ทำให้ Putin เหงามาก เราต้องรีบกลับไปที่วัดไทยเจริญการค้าเพื่อสารภาพผิดกับพระหลวงพี่ที่ให้รตจิตร ช่วยเลี้ยง Putin และ Koni รตจิตร ต้องการจะขอลูกหมาตัวอื่น ๆ ในคอกเดียวกันมาเลี้ยงเป็นเพื่อน Putin และยังเป็นการทำบุญอีก แต่ท่านบอกว่าทุกตัวที่คอกเดียวกับ Putin ตายหมดแล้ว เพิ่งตายเมื่อวาน คือ 25 พฤศจิกายน 2559 พวกเรารู้สึกแปลกใจมากว่า ลูกหมาที่เกิดพร้อมกัน กลับตายเวลาเดียวกัน เราตั้งใจว่าจะเลี้ยง Putin ลูกหมาแพนด้าให้ดีที่สุด
สุดท้ายนี้ขอฝากเพื่อน ๆ ว่า อย่าพยายามให้ลูกสุนัขนอนห้องแอร์ เพื่อไม่ให้ลูกสุนัขหนาวจนชัก ซึ่งจะทำให้น้องหมาอาจไม่กลับมาอีกเลย สวัสดี