Avenged Sevenfold ก่อตั้งวงเมื่อ 1999 โดย M. Shadow, Zacky และ The Rev พวกเขาเป็นเพื่อนกันในวัยเด็กทั้งหมด ซึ่งใครเป็นเพื่อนใครก็ศึกษาเอาเอง คนลงไปมากมายหลายเว็ป Sw Eden เริ่มชอบวงนี้จากเพลง Seize the Day ซึ่ง สว คิดว่ามันไม่นานเท่าไร แต่ก็ก่อนคนไทยหลายคน
คุณอาจเรียก post นี้ว่าเป็นประวัติของวง Avenged Sevenfold แต่ข้าพเจ้าไม่เรียก หลังจาก Avenged Sevenfold หรือ A7X ได้มาเยือนประเทศไทยเมื่อ 2007 และมาเยือน New York ใน 2009 ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าไม่ได้ไปดูทั้งสองที่ ครั้งแรก คิดว่าจะไปดูที่ New York แต่การแสดงเป็นเวลากลางคืน และต้องนั่งรถไฟออกจากเมืองไปเป็นชั่วโมง ไม่นับเวลานั่งรถไฟในเมืองอีกเป็นชั่วโมง ทั้งนี้เนื่องจากรถไฟรอบดึกจะมาไม่เป็นเวลา และมาชั่วโมงละคันเท่านั้น หากข้าพเจ้าตัดสินใจไปดู ก็คงกลับมาถึงบ้านตอนเช้าตรู่
สาเหตุที่วงดนตรีดัง ๆ หลายวงไม่ยอมเข้ามาแสดงในเมือง New York City คือ สถานที่มีราคาแพง และเนื่องจากเป็นวงดนตรีดัง จึงต้องการสถานที่ใหญ่ ๆ เพื่อรองรับปริมาณแฟนเพลงจำนวนมาก ดังนั้น โดยทั่วไปจะเห็นวงดนตรีที่ดังปานกลาง มาแสดงในเมืองมากกว่าวงดนตรีที่ดังระดับโลก ที่จริงแล้ว วงดนตรีที่ดังระดับโลกก็มีมาแสดง แต่ต้องโด่งดังและรวยจริง ๆ เช่น Rob Zombie, Fall Out Boy และ Alice Copper
กล่าวถึง J Mann หรือ J Popson (ชื่อมาจาก John Anthony Popson) ซึ่งเป็นนักร้องที่เป็นความทรงจำของชาว Mushroomhead เพราะเมื่อ แฟนเพลงพบเขา ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน ก็จะพูดว่า Never let it go ซึ่งเป็นชื่อเพลงที่เขาเคยร้องด้วย ปี 1994 ในการแสดงท้องถิ่นในเมืองของพวกเขา J Mann เป็นคนที่ไปชวนนักร้องวง 3 Quarters Dead มาร้องแทนเขาเอง การแสดงคืนนั้นเป็นประวัติศาสตร์ที่แฟนเพลง Mushroomhead ทุกคนอยากให้มันหวนกลับมา เพราะเมื่อ J Mann ขึ้นเวทีร้องเพลงร่วมกับ Waylon Reavis แฟนเพลงทุกคนอยากให้ J Mann กลับมาเล่นให้ Mushroomhead โดย Waylon Reavis ไม่ต้องออกจากวง J Mann เป็นคนมีเอกลักษณ์ที่เขาบอกตรง ๆ ว่าเขาชื่นชอบใคร และวงอะไร เขายังมีลายสักเขียนว่า Absentee บนแขนของเขา ปัจจุบันเขาเล่นให้กับ Pitch Black Forecast และยังคงเป็นหนึ่งในสมาชิกวง 216
วงที่ J Mann และสมาชิกวง Mushroomhead คนอื่น ๆ ชอบร่วมกันคือ Mr. Bungle ซึ่ง Mike Patton เป็นนักร้องนำ วงนี้มักมี Music Video แปลก ๆ และบางตัวมีการใส่หน้ากากเป็นฆาตกร เหมือนกับ influence หลักของสมาชิกส่วนใหญ่ใน Mushroomhead ซึ่ง Stitch หรือ นาย Rick Thomas บอกว่า Music Video โปรดของเขาคือ Quote Unquote นอกจากนี้ J Mann ยังพูดใน Myspace ของเขาว่า Mike Patton คือพระเจ้า ทำให้แฟนเพลงของ J Mann หลายคนชอบ Mr. Bungle ตาม
Quote Unquote of Mr. Bungle
แนวเพลงของ Mushroomhead เป็นการผสมผสานกันหลายแนว ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่าเป็น Alternative Metal แบบช้า โดยเอกลักษณ์คือเสียงของ Jeffrey Nothing และ electronic instruments ในช่วงสมัยของ J Mann Popson การร้องแบบ Hip-Hop โดดเด่นมาก แต่ในสมัยของ Waylon Reavis จะมีเสียงที่ไพเราะและนุมนวล
ชีวิตครอบครัวของคนในวงนี้ ส่วนใหญ่จะแต่งงานและมีลูกกันทุกคนแล้ว ซึ่งหัวหน้าวง Skinny หรือ Steve Felton ได้ Logo วง ที่เรียกว่า X Face มาจากการออกแบบของภรรยา ซึ่งเป็น Graphic Designer การเขียน สัญลักษณ์ X Face ที่ชาวเน็ตเขียนปิดท้ายเพื่อแสดงตนเป็นแฟนเพลง Mushroomhead คือ
X X
‘l|l’
มีเพียงไม่กี่คนที่ใช้ชีวิตอย่างวัยรุ่นที่ยังไม่มีครบครัวคือ ชะมด Shmotz (Tom Schmitz นิสัยชอบเล่นเกมส์ ทำตัวเหมือนเด็กที่สุดในวง) และ Stitch (Rick Thomas หรือเขียนว่า ST1TCH เป็นสมาชิกวง Ventana ด้วย) Stitch มีความเป็นไปได้ว่าจะสร้างครอบครัวเร็ว ๆ นี้ เพราะเขาคบกับ Angle Dies ซึ่งเป็นหัวหน้าวงและมือเบสวง As Summer Dies มานานแล้ว Angle Dies ยังสนิทสนมกับสมาชิกหลายคนในวง เช่น Skinny, Pig Benis และเธอยังเป็นคนทำทรงผม Dread ให้แก่ Waylon Reavis หลังโกนหัวครั้งแรก Angle Dies มีธุรกิจทำผมเป็นทางเลือกรองจากงานแสดงวงของเธอ หากพูดถึงเรื่องธุรกิจของวงแล้วนั้น Jeffrey Nothing ทำธุรกิจขายเสื้อที่เรียกว่า “No Wear Cloths : Wear Nothing”
Music Video ของพวกเขาที่ประสพน์ความสำเร็จมากคือ Solitaire Unraveling กับ Sun Doesn’t Rise และ ปี 2007 เขายังชนะ MTV2 Video จากการโวต ใน MV เพลง 12 Hundred (มีฉาก St1tch เย็บตัวเองด้วย ทำ stitch เหมือนชื่อจริง ๆ)
ปี 2006 Mushroomhead ออกอลบัม Savior Sorrow โด่งดังไม่แพ้อลบัมก่อนหน้านี้คือ XX เพลงหนึ่งในอลบัม XX คือ The New Cult King คนมักเอามาล้อระหว่าง J Mann กลายเป็น Waylon Reavis เพลง Simple Survival เป็น Video ที่โด่งดังที่สุด มีทั้งแบบธรรมหา และแบบ Direct Cut ซึ่งแบบ Direct Cut จะมีตัวแสดงสองคนวิ่งหนีสมาชิกในวงที่ไปปรากฎในที่ต่าง ๆ
~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
Saw VI Soundtrack
~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
มีทั้งเพลงของ Mushroomhead และเพลงของ Ventana ซึ่ง Stitch เป็นหนึ่งในสมาชิกวง 6 CHANCES:
01. Hatebreed “In Ashes They Shall Reap”
02. Lacuna Coil “The Last Goodbye” *
03. It Dies Today “Reckless Abandon”
04. Mushroomhead “Your Soul Is Mine” *
05. Chimaira “Warpath” *
06. Danko Jones “Code Of The Road” 6 LESSONS:
07. Suicide Silence “Genocide / Saw VI Remix” *
08. Memphis May Fire “Ghost In The Mirror”
09. Outbreak “The Countdown Begins” *
10. Shadows Fall “Still I Rise / Saw VI Remix” *
11. Type O Negative “Dead Again”
12. Converge “Dark Horse” 6 CHOICES:
13. Kittie “Cut Throat”
14. Nitzer Ebb “Never Known” *
15. Every Time I Die “Roman Holiday”
16. My My Misfire “The Sinatra”
17. The Flood “Lethal Injection”
18. James Brothers “More Than A Sin” BONUS DIGITAL TRACKS:
19. 69 Eyes “We Own The Night”
20. Ventana “Watch Us Burn”
21. Miss May I “Forgive & Forget”
วงนี้เปลี่ยนมือกลองถึง 4 ครั้ง คือ Masami , Yukihiro (current L’Arc en Ciel), Tetsu (D’erlanger, Craze) และ Eby Chan ซึ่ง Eby Chan ถูกรู้จักเป็นมือกลองที่อยู่ร่วมกับวงใน อลบัม In the Hole และ Rocket ซึ่งเป็นอลบัมเด่นของวง และอยู่ใน Music Video สำคัญของวง รวมกัง Video Rocket London Side และ Tokyo Side แม้ว่า Yukihiro จะมีชื่อเสียงมากในปัจจุบัน แฟนเพลงของ Zi:Kill ก็รู้จักเขาว่าเขาได้ออกจากวง Zi:Kill ก่อน Tour หลังจากกลับจาก Europe และ Tetsu ซึ่งเป็นมือกลองหลังจากเขา ได้ออกจากวงในเวลาที่ Tusk มีปัญหาเกี่ยวกับลำคอ
อัลบั้มแรก ๆ ที่ออก ทางค่ายเพลงออกได้เพียง 50 copies เท่านั้น ทำให้วง Zi:Kill ต้องหาทางย้ายออกไปที่อื่น ต่อมาฮิเดะโตะ มัทซึโมะโตะ (Hideto Matsumoto หรือ 松本秀人 หรือ Hide หรือ ฮิเดะ) ซึ่งเป็นแฟนเพลงคนสำคัญของพวกเขา ได้ชักชวนให้ไปอยู่ค่ายเพลง Extasy Records และพวกเขาได้ออกอลบัมเดิมอีกครั้งคือ The Real of the World และ Close Dance ในรูปแบบของ Extasy Ghost Disc (since 1989) และ sign เป็น Major หลังจากที่ก่อนหน้านี้เป็น Indies หลังจากอยู่ค่ายนี้ได้ร่วมแสดงใน Extasy Summit เป็นวงก่อนสุดท้าย ซึ่งวงสุดท้ายต้องเป็น X Japan อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นวงประธาน การลำดับวงในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงคุณภาพ, ความสามารถ และกระแสนิยม ของวง Zi:Kill ซึ่งโดยทั่วไป การลำดับวงของทุกที่ รวมถึงใน the United States วงที่มีแฟนเพลงมาก หรือวงที่ทุกคนรอคอยที่จะชม จะถูกไว้เป็นวงหลังสุด
== หลังจาก Zi:Kill ==
Yukihiro มือกลองคนที่ 2 ของวง ออกไปอยู่วง Die in Cries และปัจจุบันอยู่ L’Arc~en~Ciel
The Slut Banks รวมตัวอีกครั้งในวันส่งท้ายปีเก่าของปี ค.ศ. 2007 โดยมีสมาชิกคือ Tusk (Vocal), Stone Stmac (Guitar), Duck-Lee (Duck-T) (Bass), Honey Bee Garden (Drums) และ official site ของ The Slut Banks คือ http://www.slutbanks.jp/
รูป The Slut Banks สมัย Reunion ปลายปี 2007
Ken Zi:Kill ซึ่งเป็นคนเขียนเพลงหลักของ Zi:Kill ได้ออกงานเดียวหลายอัลบั้ม เช่น เริ่มจากการเปลี่ยน Style ที่ค่อนข้างเน้นหนักไปทาง Guitar Solo และ Techno Mix คืออลบัม Joke อลบัมนี้ทำขึ้นในสมัยสุดท้ายของ Zi:Kill และยังมีการโฆษณาหลังปก เพื่อขาย Rocket ของ Zi:Kill ด้วย เมื่อ Zi:Kill แยกวง Ken ได้ทำงาน Techno ร่วมกับ Yukihiro ซึ่งเป็นมือกลองคนที่ 2 ของวง Zi:Kill ในอลบัม The Hip Grind Man และ Eby Chan ยังเล่นให้กลองในเพลงที่ไม่ใช่ Techno เช่น “Do You Believe In Magic” อลบัมนี้เป็นแผ่นเพลงที่มาจาก DVD ที่ชื่อ “Hula Hoop” หลังจากสองอลบัมแรก Ken Zi:Kill ได้เปลี่ยนแนวเพลงของตนเองกลายเป็นเพลง pop ในงาน Solo ของเขา คือ Who am I?, Missile, Drill และ Boy ต่อมาทำวงใหม่คือ Cry Baby และ Vast นอกจากนี้ยังเป็น co-producer ให้วงในสังกัดที่ตนเองอยู่คือ Victor Entertainment และบริษัทในเครือคือ Speedstar Records เป็นค่ายเพลง pop กล่าวถึงงานเพลงของวง Cry Baby ซึ่งเริ่มแรกมีสมาชิกวง 4 คน และนักร้องคือ Fumi แต่ในช่วงท้ายของวง เหลือสมาชิกเพียง 2 คนคือ Ken Zi:Kill และ Ken Matsudaira คนคนนี้เป็นดาราและนักร้องชื่อดัง ใน theme ของ Japanese Tradition