Tag Archives: protect

by Ratajit | July 19, 2010 · 9:34 am

การรักษา โรคงูสวัด

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีป้องกันงูสวัด : ระยะเวลาและอาการโรคงูสวัด

ครั้งแรกที่รตจิตรเป็น ยังไม่ว่างไปหาหมอ จึงหาวิธีรักษาจาก internet และจากการสอบถามผู้ที่เคยเป็น ให้เอาใบชะพลูหรือใบเสลดพังพอนตัวเมียเพราะตัวผู้ไม่มีประโยชน์เสียเลย ตันตัวเมียก็คือต้นที่มีดอกเหลือง ๆ นั่นเอง โชคดีที่บ้านปลูกแต่ต้นตัวเมีย ตำให้แหลกและผสมกับเหล้าขาว 28 degree เดี๋ยวนี้หาซื้อยาก รตจิตรจึงซื้อได้แต่เหล้าขาว 40 degree ที่ 7-11 ราคา 40 บาท (สงสัยดีกรีละ 1 บาท) การใช้เหล้าขาวทากับใบเสลดพังพอนตัวเมียนั้นข่วยแค่ไม่ให้คันมากแต่ไม่ได้ช่วยให้หยุดขึ้นเม็ดหรือตุ่มใส และสามารถหยุดอาการคันได้แค่ช่วง 10-20 นาทีแรกเอง รตจิตรจึงใช้วิธีทาบ่อย ๆ แม้นอนแล้วก็ต้องตื่นขึ้นมาทา

เรียกว่าโรคงูสวัดเพราะตุ่มจะขึ้นเป็นแผงและเจ็บเหมือนโดนงูที่มีหนามรัด
ดูรูปงูสวัดเพิ่มได้ที่นี่
View More Herpes Zoster Picture on Sw Eden’s Flickr

ในเรื่องการรักษางูสวัด มียารับประทานและยาทาประเภท Acyclovir, Famciclocir, และ Valacyclovir รตจิตรอยากสรุปเป็น 2 หัวข้อคือ

1. เรื่องการรักษาอาการเจ็บ

(1) ยาทานสำคัญมาก ๆ จะเอาอยู่ไม่อยู่ขึ้นกับการทานยาจริง ๆ ตอนนั้นหมอให้รตจิตรมาทาน 25 เม็ดตามรูป ทานทุก ๆ 4 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่ว่างไปหาหมอ ตามร้านขายยาก็เก่งมากสามารถแนะนำได้ดี อย่างไรก็ต้องรีบไปหาหมอ เพราะว่าถ้าทิ้งไว้อาจมีอาการช็อกได้

(2) พยายามอย่าอาบน้ำร้อนเพราะจะเจ็บแผล หรือถูกแดดจัด ๆ

ยาที่ใช้รักษาโรคงูสวัด ต้องใช้ควบคู่กันทั้งยาทาและยากิน
ดูรูปงูสวัดเพิ่มได้ที่นี่
View More Herpes Zoster Picture on Sw Eden’s Flickr

2. เรื่องการรักษาอาการคัน

(1) ต้องใช้ยาทาตลอดจริง ๆ เพราะช่วยอาการคันได้อย่างมากในเบื้องต้น รตจิตรใช้ยาทาค่อนข้างมาก พอหมอให้ ENTIR cream มา 1 หลอด แค่ 3 กรัม จึงไม่มีทางพอ เพราะเป็นงูสวัดถึงครึ่งตัว รตจิตรต้องซื้อที่ร้านขายยาทั่วไป มีประมาณ 3-4 ยี่ห้อ แต่รตจิตรเลือกซื้อของคนไทยด้วยกันดีกว่า ชอบของไทยทำคือ Vilerm cream 5g ซึ่งเป็นประเภท Acyclovir ผลิตโดยคนไทยคือ Siam Bjeasach Co., LTd. ราคา 40 บาทเอง แต่ได้ 5 กรัม ในขณะที่ของนอกแพงกว่าและแค่ 3 กรัม

(2) นอกจากนี้รตจิตรก็ยังใช้เหล้าขาวทาให้เย็น แต่ถ้าแผลงูสวัดตรงหัวใส ๆ แตก จะกลายเป็นแสบแทน ที่ต้องใช้เหล้าขาวด้วยเพราะยาทาไม่ได้ระงับคันได้ 100%

(3) ต้องขยันล้างแผล และรักษาความสะอาดที่สุด กรณีของรตจิตรจึงขยันอาบน้ำมากเพราะเป็นตามตัวเกือบครึ่งตัว พอถึงการเช็ดตัว รตจิตรใช้กระดาษทิชชู่ซับ ๆ แผลแทนการใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวกับเช็ดตัว การซับจะช่วยไม่ให้หัวใส ๆ แตกเป็นแผล ถ้าหัวตุ่มใส ๆ แตกต้องระวังไม่ให้ติดเชื้อ ที่เคยได้ยินกันว่า ถ้าเป็นงูสวัดครบรอบตามร่างกายจะตายนั้น รตจิตรคิดว่ามาจากร่างกายที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว และยังมีการติดเชื้อนั่นเอง จนทำให้คนไข้ทนกันไม่ไหว

(4) พยายามออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายแข็งแรง สร้างภูมิคุ้นกันให้แก่ร่างกาย และการพักผ่อนเพื่อชดเชยเวลาที่รตจิตรอาจสูญเสียไปจากอาการคันตอนกลางคืนจนนอนไม่ค่อยหลับ

9 Comments

Filed under Everything_Okay

Tagged as การรักษา, งูสวัด, วิธีป้องกัน, อาการ, โรคงูสวัด, ไวรัส, herpes, protect, treatment, Virus, zoster

by Ratajit | July 19, 2010 · 9:32 am

วิธีป้องกัน โรคงูสวัด

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : การรักษาโรคงูสวัด : ระยะเวลาและอาการโรคงูสวัด

ทุกครั้งที่คุณแกะเกาตุ่มหนองโรคงูสวัด คุณจะเป็นแผลเป็น ดังนั้นห้ามเกาเด็ดขาด
ดูรูปงูสวัดเพิ่มได้ที่นี่
View More Herpes Zoster Picture on Sw Eden’s Flickr

บางคนมีความเชื่อว่างูสวัดเป็นโรคทื่ไม่ติดต่อ เป็นแล้วหายได้เอง และบางคนก็เชื่อว่างูสวัดเป็นประเภทเดียวกับอีสุกอีใส ถ้าเคยเป็นอีสุกอีใสแล้วอาจเป็นงูสวัดได้ยาก แต่รตจิตรขอเตือนว่าอย่าเชื่อ 100% เพราะการที่รตจิตรเป็นก็เพราะ

– รตจิตรเคยเป็นอีสุกอีใส และเคยเป็นหัดเยอรมันถึง 2 ครั้ง จึงมีความเสียงในการที่จะเป็นงูสวัดได้ ดังนั้นถ้าสามารถฉีดวัคซีนป้องกันอีสุกอีใสได้ ก็จะดี

– เผอิญเพื่อนที่ทำงานเป็นเริม ซึ่งก็เป็นชนิดหนึ่งของ herpes แต่เนื่องจากอยู่ในห้องทำงานเดียวกัน พอรตจิตร รู้สึกไม่ค่อยแข็งแรงเพราะสำบุกสำบันกับการไปเที่ยวที่นิวยอร์กมา 2 อาทิตย์ จึงทำให้ติดเชื้อได้ง่ายและเป็นงูสวัดในที่สุดหลังจากเพื่อนคนนั้นเป็นหายแล้ว 1-2 สัปดาห์

– อย่างคิดว่าทายาอย่างเดียวจะหาย เพราะงูสวัดเป็นเชื้อไวรัสที่กัดเกาะที่ปมประสาทภายในร่างกาย ต้องทานยาเสมอจะป้องกันไม่ให้เป็นมากขึ้น หรือเป็นจนลามไปทั้งตัว

– สุดท้ายก็เช่นเดียวกับโรคอื่น ๆ คือหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ และพักผ่อนให้เพียงพอ ทั้งนี้เพื่อให้ร่างการของเรามีภูมิคุ้นกันโรค หรือแข็งแรงเกินคาดนั่นเอง 555

ตุ่มของโรคงูสวัดจะมีลักษณะใส เห็นเป็นหนองสีเหลืองด้านใน
ดูรูปงูสวัดเพิ่มได้ที่นี่
View More Herpes Zoster Picture on Sw Eden’s Flickr

ระยะเวลา และอาการของ โรคงูสวัด

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง : การรักษาโรคงูสวัด : วิธีป้องกันงูสวัด

ลักษณะโรคงูสวัดเมื่อเริ่มเป็น
ดูรูปงูสวัดเพิ่มได้ที่นี่
View More Herpes Zoster Picture on Sw Eden’s Flickr

วันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา รตจิตรไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีตุ่มใหญ่ ๆ แดง ๆ ขึ้นกลางหลัง 4-5 ตุ่ม เพราะไม่มีอาการคัน ตัวก็ไม่ร้อน แต่เพื่อนสังเกตเห็น พอรตจิตรรู้ก็ยังไม่รู้สึกคันเลย

วันที่ 14 รตจิตรเริ่มรู้สึกคันจี๊ด ๆ และส่องกระจกเห็นตุ่มเหล่านั้นได้ชัดเจนมากขึ้นเพราะทุกตุ่มมีหัวน้ำใส ๆ อยู่ รตจิตรคิดว่าน่าจะเป็นงูสวัด นอกจากนี้ยังขึ้นตุ่มรอบวงแขนซ้าย และรักแร้ แฮ่แฮ่ จนตกดึกตุ่มใส ๆ ขึ้นอย่างรวดเร็วที่กลางหน้าอกและมีแนวโน้มไปชนกับรอบวงแขน รตจิตรรู้ทันทีว่าเป็นงูสวัดชัวร์ คืนนั้นนอนไม่ค่อยหลับ เพราะเริ่มเจ็บจี๊ด ปวดมาก เหมือนมีเข็มเล็ก ๆ ปักอยู่ด้านใน ซึ่งแท้จริงแล้วก็คือไวรัสขึ้นตามปมประสาท จึงรู้สึกเจ็บมากเหลือเกิน

วันที่ 15 หลังเลิกงาน รตจิตรรีบเผ่นไปหาหมอ เพราะตุ่มใส ๆ เหล่านั้นเริ่มมากขึ้น และเริ่มต่อเนื่องจนใกล้จะเป็นครึ่งตัว หมอสัญญาว่าภายใน 3 วันอาการจะดีขึ้น เพราะวันศุกร์ที่ 18 รตจิตรต้องเดินทางไปทำบุญไหว้พระที่พม่า อาการวันที่ 4-7 หลังจากเริ่มเป็นงูสวัด ทรมานมาก เพราะเจ็บแผลจนยกแขนไม่ค่อยได้ เผอิญรตจิตรเป็นคนชอบขับรถมือซ้ายมือเดียว จึงทำให้ขับรถลำบากเพราะยกแขนซ้ายไม่ค่อยไหวเลย

วันที่ 18 มาถึง ดีใจเหลือเกินเพราะยาที่ทานมีผลมากกว่ายาทา ทำให้แผลที่เพิ่มขึ้นทุกวันหยุดขึ้นทันที ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางไปพม่าเท่าไรนัก ยอมรับว่ายังเจ็บน่าดู แต่รตจิตรก็ทนทาน 5555

อาการงูสวัดเมื่อตุ่มใสเริ่มหายเป็นแผลเสก็ด
ดูรูปโรคงูสวัดเพิ่มได้ที่นี่
View More Herpes Zoster Picture on Sw Eden’s Flickr

ขอบอกว่าเจ็บแผลประมาณ 2 อาทิตย์ เข้าสัปดาห์ที่ 2 รตจิตรอยากสรุปให้รู้ถึงเวลาที่ทรมานสุด ๆ มี 2 ช่วงคือ

– ช่วงที่เหงื่อออก จะแสบมาก แม้ว่าไม่ได้เกา แต่พอหัวใส ๆ แตกเองหรืออาจจะสีไปมากับเสื้อผ้าที่ใส่ก็เป็นเหมือนแผลสด ๆ ยิ่งยกแขนไม่ค่อยได้ บางครั้งเหงื่อก็ยิ่งออก แผลสด ๆ ก็ยิ่งเจ็บแสบ และ

– ช่วงหัวค่ำถึงมืดค่ำจนกว่าจะหลับ รตจิตรก็ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมพอไม่มีแสงแดด จะรู้สึกคันแผลเหมือนมีตัวอะไรเล็ก ๆ เต็มไปหมดเดินตามแนวแผลที่รตจิตรเป็น จนนอนไปค่อยหลับ บางวันกว่ารตจิตรจะหลับได้ประมาณตี 2 ถึงตี 3 บางคนบอกว่าเพราะรตจิตรเป็นมาก เป็นถึงครึ่งตัว

สัปดาห์ที่ 3 ต้น ๆ สัปดาห์ยังคงเจ็บแผลเพราะหัวใส ๆ แตกหมด 100% แต่จะคันมากกว่า บางครั้งรตจิตรเผลอไปเกาตอนนอน เจ็บมากกกกก

สัปดาห์ที่ 4 ทรมานอีกครั้งกับความคันนนนน คันจริง ๆ คันแบบมีตัวเล็ก ๆ เป็นร้อย ๆ ตัวเดินสวนสนามใต้แขน หน้าอก และหลังตลอดเวลา เดี๋ยวจะบอกให้ฟังภายหลังว่ารตจิตรแก้ด้วยวิธีใดบ้าง เหอะ ๆ อ่านแล้วจะรู้ว่านอนไม่ค่อยหลับ อดหลับอดนอนอย่างยิ่ง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ดูแข่ง World Cup 2010 สักแมทช์เลย

วันที่ 16 กรกฎาคม อาการหายแล้วประมาณ 95% เพราะยังคงเหลืออาการคันบ้างเมื่อมีเหงื่อ หรือโดนเสื้อผ้า รตจิตรไม่พูดถึงเรื่องแผลเป็น เพราะขนาดไม่เกามาก ก็มีรอยด่าง ๆ สีน้ำตาล มีสะเก็ดที่หัวแผลเป็นเม็ด ๆ ให้เห็นซึ่งเกิดจากหัวใส ๆ ที่แตกนั่นเอง

สรุปว่าการเป็นงูสวัดครั้งนี้ ถ้าเป็นมาก เช่นกรณีรตจิตรคือครึ่งตัว กว่าจะหาย 100% ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 สัปดาห์ แต่เพื่อนที่รู้จักกันเป็นเล็กน้อย ใช้เวลาแค่ 2 สัปดาห์ เพราะเป็นเริมรอบ ๆ คอเอง

ขนาดเม็ด เมื่อเริ่มเป็นงูสวัด ถ้าไปรีบหาหมอหายามากิน มันจะใหญ่มาก
ดูรูปงูสวัดเพิ่มได้ที่นี่
View More Herpes Zoster Picture on Sw Eden’s Flickr

2 Comments

Filed under Everything_Okay

Tagged as การรักษา, งูสวัด, วิธีป้องกัน, อาการ, โรคงูสวัด, ไวรัส, herpes, protect, treatment, Virus, zoster

by The SW Eden | December 31, 2008 · 8:55 am

3 lives help 3 places

Thailand is a tropical country which is rich with culture and natural environment. There are many kinds of forests in Thailand and many groups of people who live in them. Some of Thai cultures help to keep the forest environments. There are 3 groups of people who are not so well-known. They live in 3 different forests, and their life routines and their traditions do not hurt the forest and also keep it more plentiful. They are the tribesmen who live in the mountains, the houseboat families who live in mangrove forest and the people who live in deciduous forest.

The tribesmen’s beliefs help to keep the tropical forest on the mountains in the north of Thailand pure. These people believe in ghosts, and those ghosts live in the trees, so they have to protect the trees. They do not cut the big trees because they believe that the big ghosts live in them. Moreover, all children who are already 5 years old will grow the trees because each of them has to have a ghost to looking after, for their whole life. There are only two reasons that these tribesmen can cut the trees. The first reason is when they need new houses for their marriages. The second reason is when they need the area for their farms. For this second reason, they will cut only the small trees which are younger than ten years old. In my opinion, this is very interesting, that their belief which most people think that are stupid, can protect the forest much more wiser than people with education.

When I went to the west of Thailand with my high school friends, I met another community who grew the trees in deciduous forests correctly. Their lives was more modern than the tribemen. In fact, this has been a project of the Thai King since many decades ago. He began to inspire and give the growing tree methods to these people after Thailand lost more than half of its trees in this forest to Myanmar. Before this project began, many Thai people who wanted to grow the big trees in this forest would cut all grasses and small trees down, then, they put the seeds of big trees in. The seeds of the big trees cannot grow without other small trees, which grow more quickly at first and protect the big trees from the sun and animals. The group of people I met did not take anything from the land. They knew that the nature had its own way to bear again. What they can do was help the nature’s development to be faster. I did not just see their activities; I also visited some tunnels on the mountains. I had a hard time to get to those tunnels. I had to climb a wet mountain all along the way. There were no stairs there, and this was the only place in Thailand which did not have stairs for the visitors. It means they really kept the nature purely. I found many strange and colorful insects and they were not afraid of me. That was because no one disturbed them. In the tunnel, the water dropped from the top stones. All I saw, were the ways that people in this forest kept their homes naturally.

I also visit the mangrove forest every year and once, I found a group of house-boat families who were very harmonious with the mangrove forest environment. I was very excited the first time I saw their boat-houses, because I had seen people in other mangrove forests cut the trees and make houses on the land. I think that they did clever things because the level of the water always changed in the afternoon and at night. I saw the ways they found their food, and it was very intelligent. They made a big room with bamboo under the sea and its door faced to the direction of water. When there were many fish in that room, they would close it and take only the fish they could eat. The small fish and the other useless animal would be released back into the sea. They also got sea mussels by hanging a piece of rope down into the sea and the sea mussels would attach to it by themselves. These ways to find food were much more intelligent than other fishermen who use electricity and nets. Electricity can kill every animal around that area, and most of them cannot be consumed. Nets catch all sizes of the fish, and small fish get caught although no one wants to eat them. This is why I really like the boat-house living. Their perfect life does not hurt any the life cycle in the sea.

In conclusion, all these three groups of people who live with nature can adapt themselves to it, although most people in the world take the natural resources for themselves and waste them very fast. All people who have good knowledge and are destroying the world should be ashamed, at least if they see these three groups of common folks.