Tag Archives: Shwemawdaw

กราบพระธาตุมุเตา (ชะเวมอดอว์) เคารพพระเจ้าตะเบงชะเวตี้

สว อิเฎลขอให้ท่านที่เปิดเข้ามาในหน้านี้ อ่านบทความนี้จนจบ

Article by © 2010 Sw Eden
เขียนโดย สว อิเฎล – สงวนลิขสิทธิ์บทความและรูปภาพ
** ห้ามคัดลอกลงเว็ปไซด์อื่น อนุญาตให้ใช้ทำรายงานเพื่อการศึกษาเท่านั้น


ดูภาพพม่าอื่น ๆ

ถ้าใครทราบพระประวัติของพระเจ้าตะเบงชะเวตี้ดี (อาจเรียกว่า มังตรา) จะทราบว่าท่านเจาะพระกรรณที่พระธาตุมุเตา ซึ่งเป็นพิธีในการขึ้นครองราชย์ ตอนนั้นตะเบงชะเวตี้ขึ้นครองราชย์ที่เมืองตองอู (อาจเรียก เกตวดี เกตุงมดี หรือ เกตมดี) แต่เลือกพระธาตุมุเตาซึ่งประดิษฐานอยู่ที่หงสาวดีเป็นที่เจาะหู (อาจเรียก หงสาวดีว่า หานตาวดี) ตะเบงชะเวตี้ได้อธิฐานขอให้ตนได้ครองเมืองหงสาวดีในกาลต่อไป อิเฎลชื่นชอบในความพยายามของตะเบงชะเวตี้ที่ใช้เวลานานกว่าจะรบเอาหงสาวดีมาได้ ความสำเร็จนี้เกิดจากความศักดิ์สิทธิ์ของพระธาตุมุเตาและความพยายามของตะเบงชะเวตี้ประกอบกัน

อ่านประวัติศาสตร์และเรื่องเกี่ยวกับพม่าเพิ่ม
คลิกที่นี่ (Read More about Myanmar)


เจดีย์ชะเวมอดอ (พระธาตุมุเตา) และ เจดีย์ชะเวดากอง มีมาก่อนสมัยที่พระเจ้าตะเบงชะเวตี้ และถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาจนถึงปัจจุบัน โดยรัฐบาลพม่ากำหนดให้เครื่องบินต่าง ๆ ห้ามบินข้ามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ โดยเครื่องบินโดยสารต้องไปบินอ้อมที่อื่น โดยส่วนมากผู้หญิงจะไม่มีโอกาสได้กราบไหว้บนสิ่งปลูกสร้างศัดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ของพม่า แต่ท่านผู้หญิงทั้งหลายสามารถกราบบนส่วนที่เคยหักลงมาของพระธาตุมุเตาได้ อิเฎลทราบมาว่ายอดเจดีย์ที่เคยหักลงมานั้นมาจากเรื่องแผ่นดินไหว แผ่นดินได้แยกบริเวรฐานเจดีย์ แต่ยอดเจดีย์มิได้ตกลงไปในรอยแยก นี่เป็นอีกเหตุการณืที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้

Article by © 2010 Sw Eden
เขียนโดย สว อิเฎล – สงวนลิขสิทธิ์บทความและรูปภาพ
** ห้ามคัดลอกลงเว็ปไซด์อื่น อนุญาตให้ใช้ทำรายงานเพื่อการศึกษาเท่านั้น


ดูภาพพม่าอื่น ๆ

ทุกครั้งที่สว อิเฎลเข้าไปเดินรอบพระธาตุมุเตา อิเฎลมีความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูก แดดที่นี่ไม่เคยร้อน ถึงแดดจะร้อน ฝนก็จะตกเบา ๆ ให้พื้นกระเบื้องนั้นเย็นลง (ทุกคนห้ามสวมรองเท้าเข้าบริเวณศาสนสถาน และวันที่แดดร้อน เท้านั้นแทบพอง) บริเวณส่วนหนึ่งของลานรอบเจดีย์นั้นจะมีดอกบัวทรงสูงตั้งอยู่ ที่นั่นคือที่เจาะพระกรรณของพระเจ้าตะเบงชะเวตี้ อิเฎลยืนอยู่ที่นั่นและคิดย้อนกลับไป ห้าร้อยปีที่แล้วจะเป็นเช่นไรหนอ? อิเฎลดีใจหรือเป็นอะไรสักอย่างที่บอกไม่ถูกจริง ๆ ตะเบงชะเวตี้นั่งอยู่ที่นี่ มีทหารม้าห้าร้อยคนตามมาด้วย และมีพวกทหารมอญมาล้อมอยู่

หลังจากพระเจ้าตะเบงชะเวตี้ขึ้นครองเมืองหงสาวดี และท่านออกรบเพื่อปราบกบฏต่าง ๆ ท่านได้กลับมาไหว้พระธาตุมุเตาเสมอ ท่านถวายครอบยอดเจดีย์แก่พระธาตุมุเตา และชะเวดากอง ดังนั้นเมื่ออิเฎลไหว้พระธาตุมุเตาและชะเวดากอง อิเฎลคิดว่าตะเบงชะเวตี้อยู่ที่นั้นเสมอ อิเฎลอยากรู้ว่าครอบยอดเจดีย์ส่วนไหนกันที่ตะเบงชะเวตี้สร้างถวาย มันอาจจะถูกครอบทับด้วยชิ้นอื่นในกาลต่อมา

จากร่องรอยทางประวัติศาสตร์ พระธาตุมุเตา เป็นศาสนสถานที่อนุญาตให้ประชาชนเข้าสักการะได้มาตั้งแต่สมัตเจ้าฟ้ารั่ว หรือมะกะโท ซึ่งเวลาที่ตะเบงชะเวตี้เข้าไปเจาะพระกรรณนั้น ยิ่งแสดงให้เห็นว่าพระธาตุมุเตามิได้อยู่ในเขตพระราชฐานของตะกะยุตปิ ตะเบงชะเวตี้มิได้ทำลายวังเก่าของตากะยุตปิ ดั้งนั้นอิเฎลสันนิษฐานว่าพระธาตุมุเตายังเป็นศาสนสถานสำหรับสาธารณชนอยู่ในสมัยนั้น แต่หลังจากการปราบกบฏและบุเรงนองขึ้นครองราชย์ต่อจากตะเบงชะเวตี้ ร่องรอยกำแพงวังได้ครอบครุมพื้นที่ของพระธาตุมุเตาไว้ด้วย แสดงว่าพระธาตุมุเตาอยู่ในเขตพระราชฐานของบุเรงนองและนันทบุเรง

Article by © 2010 Sw Eden
เขียนโดย สว อิเฎล – สงวนลิขสิทธิ์บทความและรูปภาพ
** ห้ามคัดลอกลงเว็ปไซด์อื่น อนุญาตให้ใช้ทำรายงานเพื่อการศึกษาเท่านั้น


สถานที่เจาะพระกรรณของตะเบงชะเวตี้ ดูภาพพม่าอื่น ๆ

แม้ว่าชาวมอญอาจคิดว่าตะเบงชะเวตี้ขโมยบัลลังค์ของเมืองหลวงของพวกเขาไป แต่ตะเบงชะเวตี้ทำไปเพื่อสันติภาพระหว่างชาวมอญและพม่า หากเทียบตะเบงชะเวตี้กับนักการเมืองในปัจจุบัน เขาเหมือนประธานาธิบดีเลือดผสมที่ขึ้นดำรงค์ตำแหน่งเพื่อรณรงค์มิให้มีการเหยียดสีผิวและชนชาติ (แน่นอนที่พระมารดาของตะเบงชะเวตี้เป็นชาวมอญและพระบิดาเป็นชาวพม่า) หากตะเบงชะเวตี้สามารถรวมชาติมอญและพม่าได้สำเร็จ มอญและพม่าก็จะไม่ทำสงครามกันอีกต่อไป ท่านเป็นกษัตริย์ที่มีความคิดทันสมัยอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าในมุมมองของนักประวัติศาสตร์ไทย ตอนจบของสิ่งที่ท่านทำมาดูเหมือนไม่ประสบความสำเร็จ เพราะตามพงศาวดาร หลังจากที่ท่านถูกลอบปลงพระชนต์ เมืองมอญที่เป็นเมืองขึ้นแทบทุกเมืองต่างกระด้างกระเดื่อง แต่อิเฎลคิดต่างไปจากพวกเขา อิเฎลคิดว่าเมืองมอญเหล่านั้นชื่นชอบตะเบงชะเวตี้ แต่ไม่ชื่นชอบกบฏที่ขึ้นครองราชย์

ถึงอย่างไรก็ตาม อิเฎลก็ยังชื่นชอบอุดมการณ์ของตะเบงชะเวตี้มิรู้หาย ตะเบงชะเวตี้ชอบความปรองดอง มากกว่าการทำให้ผู้อื่นเกรงกลัวอำนาจของตน อิเฎลเคยได้ยินว่าคนไทยบางคนได้นินทาตะเบงชะเวตี้ทางหนังสือพิมพ์ว่าเป็นกษัตริย์ที่อ่อนแอ แต่แท้ที่จริงแล้ว การที่ตะเบงชะเวตี้ไม่ประหารใครง่าย ๆ เพราะท่านชอบความประนีประนอม ท่านนิยมให้กษัตริย์ของเมืองมอญปกครองเมืองดังเดิมและไม่จับเชื้อพระวงศ์เป็นตัวประกัน สิ่งที่ท่านทำมีจนกระทั่งถึงกับให้อำนาจกษัตริย์เมืองมอญอื่นทัดเทียมกับท่าน ตะเบงชะเวตี้เป็นณัฐองค์หนึ่งของพม่า ดังนั้นประชาชนสามารถกราบไหว้บูชาท่านได้ อิเฎลคาดคะเนเอาว่า เรื่องที่ท่านอาจขอจากตะเบงชะเวตี้ ควรจะเป็นเรื่องความปรองดอง อิเฏลคิดว่าท่านจะสนับสนุนให้เกิดแต่ความปรองดองเสมอ ท่านแสดงให้เห็นว่าผู้ที่แข็งแกร่งมิใช่ผู้ที่ชอบกดขี่ข่มเหงใคร หรือกล่าวได้ว่า ผู้ที่แข็งแกร่งสามารถเป็นผู้ที่รักสันติภาพได้

“ถ้าสงสัยหรือมีข้อโต้แย้งใด ๆ ขอให้ใช้ถ้อยคำที่น่าเชื่อถือ และสุภาพ” สว อิเฎล 😉

Article by © 2010 Sw Eden
เขียนโดย สว อิเฎล – สงวนลิขสิทธิ์บทความและรูปภาพ
** ห้ามคัดลอกลงเว็ปไซด์อื่น อนุญาตให้ใช้ทำรายงานเพื่อการศึกษาเท่านั้น


ดูภาพพม่าอื่น ๆ

~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
คุณรู้จัก Black Tongue : The Animation หรือยัง?
มันคือการ์ตูนสั้น กำลังถูกดัดแปลงให้เป็นเกมส์ online ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ในฤดูหนาวปี 2011
มีโครงเรื่องมาจากบทประพันธ์ของ สว อิเฎล
เชิญชมได้ ณ ที่นี้

1 Comment

Filed under Uncategorized

Bayinnaung Palace “Kambawzathardi” & its Story

Palace of Bro, Bayinnaung Kyaw Htin Nawratha (บายินนอง จอเดงนรธา หรือ บุเรงนอง กะยอธินนรธา)
“Kambawzathardi Golden Palace” (กัมโพชฯ)

© 2010 Sw Eden
Do not paste this article into other website. You may use for school only. Please cite us.

ตำหนักของเจ้าพี่บุเรงนอง สร้างใหม่หลังหงสาวดีแตกเมื่อสิ้นรัชกาลของ my beloved ตะเบงชะเวตี้
Palace of Bayinnaung – re-buile after Tabinshwehti ♥ reign.
ดูรูปวังบุเรงนองทั้งหมด คลิกที่นี่

Bayinnaung loved everything big-vast-&-large. In the period of Thushin Takayutpi (ตากะยุตปิ), this Hanthawaddy (หงสาวดี) palace was big, but it was not this big. After Tabinshwehti (ตะเบงชะเวตี้) took this city, this palace was still the same same big. After the death of Tabinshwehti, Smim Sawhtut (สมิงสอหะสุต) destroyed all this palace. Smim Sawhtut was killed by Smim Htaw (สมิงเตารามะ), who had been his intimate of Tabinshwehti‘s assassination.

อ่านประวัติศาสตร์และเรื่องเกี่ยวกับพม่าเพิ่ม
คลิกที่นี่ (Read More about Myanmar)


Bayinnaung came back from Syriam (สิเรียม หรือ ซีเรียม) war (Bayinnaung fought with Smim Htaw while Smim Sawhtut tried to kill Tabinshwehti.). Bayinnaung kicked Smim Htaw out of Hanthawaddy, and re-built Hanthawaddy palace. The new palace of Bayinnaung was the biggest of all all all past versions. It included all the land around the original-version palace. Shwemawdaw Paya pagoda (พระธาตุมุเตา หรือ ชเวมอดอ) was also inside its territory. So! this pagoda became private area of palace people.

สระน้ำ คงจะเป็นสระเก่าจากสมัยตะเบงชะเวตี้ ; อยากให้คุณลองคิดภาพบุเรงนองกับสาว ๆ ของเขา 54 นางลงไปในสระพร้อมกัน
Pool of Bath in Hanthawaddy palace. This sould be the same pool as past reigns ; Let’s imagine Bayinnaung with his 54 queens in this pool.
ดูรูปวังบุเรงนองทั้งหมด คลิกที่นี่

This privacy of Shwemawdaw Paya pagoda is different from the reign of Thushin Takayutpi and Tabinshwehti. Let’s consider that Tabinshwehti drove knight troop to pierce his ears at this pagoda. This mean Shwemawdaw Paya pagoda had been public place for everybody. In the Burma annal does not tell anything about Tabinshwehti‘s re-make of Hanthawaddy city. Tabinshwehti just wanted to keep Mon stuff as much as he could. He loved Mon (มอญ) as his life. (Laugh with Love ^^)

Sw Eden loved that Tabinshwehti born as a Burmese, but he has never ever hated Mon as other Burmese kings did. Tabinshwehti fought to create Melting Pot between Burma and Mon. I say, like, “WoW! This is super awesome modern politician”. Well, Tabinshwehti was more than that. If he was born in this current world, he would be a kick-ass American thinker.

© 2010 Sw Eden
Do not paste this article into other website. You may use for school only. Please cite us.

คนเฝ้าวังบุเรงนองใจดีมาก แต่อ่านประวัติศาสตร์ทีไร บุเรงนองเอาแต่กริ้ว
The guy who looks for this palace is so kind, different from Bayinnaung himself. I read historical book, and Bayinnaung was always angry.
ดูรูปวังบุเรงนองทั้งหมด คลิกที่นี่

Leave a comment

Filed under Uncategorized